เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 25 พ.ค. ที่ วัดนวลจันทร์ ศาลา 3 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศพิธีรดน้ำศพ พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พิธีสวดอภิธรรม 2 ผู้วายชนม์ ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้อัญเชิญน้ำหลวงพระราชทานอาบศพ พร้อมทั้งอัญเชิญพวงมาลาหลวงพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพ โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานหีบก้านแย่งและหีบเชิงชายเป็นเครื่องประกอบเกียรติยศศพแก่นายตำรวจทั้งสอง จึงนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แก่ครอบครัวนายตำรวจผู้วายชนม์ทั้งสอง
โดยในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและสวดพระอภิธรรมศพในครั้งนี้มี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธี มีบรรดานายตำรวจระดับสูง เพื่อนข้าราชการตำรวจ คนสนิท และเครือญาติผู้วายชนม์ เข้าร่วมพิธีที่ศาลา 3 วัดนวลจันทร์ เป็นจำนวนมาก ซึ่งพิธีสวดพระอภิธรรมศพได้เริ่มขึ้นทันทีหลังพิธีรดน้ำศพเสร็จสิ้น
สำหรับบุคคลสำคัญที่เดินทางมาร่วมพิธีสวดอภิธรรม อาทิ พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ (ผบช.สอท.) และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต ผบ.ตร.) เป็นต้น
นอกจากนี้ บุคคลสำคัญทางการเมืองได้ร่วมส่งพวงหรีดมาวางหน้าหีบศพ เพื่อไว้อาลัยแก่นายตำรวจผู้วายชนม์ อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ทั้งนี้ ในวันที่ 26 พ.ค. ร่างของ ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย จะเคลื่อนออกจากวัดนวลจันทร์ เพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์นำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองน้ำเจ็ด ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นภูมิลำเนาบ้านเกิด โดยจะมีการสวดอภิธรรมศพตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.-วันที่ 4 มิ.ย. และกำหนดการพระราชทานเพลิงศพวันที่ 5 มิ.ย. ตามลำดับ
ส่วนร่างของ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย จะตั้งบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมศพที่ศาลา 3 วัดนวลจันทร์ จนถึงวันที่ 29 พ.ค. และก่อนกำหนดพระราชทานเพลิงศพวันที่ 31 พ.ค. ตามลำดับต่อไป
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้ครอบครัวและญาติของผู้วายชนม์ รายละ 250,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากกองสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
