ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าอาคารหอจดหมายเหตุ พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย (ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายประพันธ์ ตรีบุปผา รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับมอบหมายจากนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะน้อมรำลึก พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9 ) เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2555 ครบรอบ 13 ปีแห่งการเสด็จพระราชดำเนิน โดยมีนายวัชระ กระแสร์ฉัตร รองผวจ.พระนครศรีอยุธยา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกอบจ.พระนครศรีอยุธยา และหัวหน้าส่วนราชการรวมทั้งองค์กรภาคเอกชนมาร่วมจำนวนมาก

default

โดยทางจ.พระนครศรีอยุธยา ได้จัดให้หัวหน้าส่วนราชการร่วมวางพานพุ่ม และถวายราชสักการะหน้าพระบรมรูปลอยองค์ด้านหน้าอาคาร ซึ่งการจัดพิธีในวันนี้ สืบเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9 ) เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2555 ภายหลังเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพสกนิกร

ทั้งนี้บริเวณพระราชานุสาวรีย์แห่งนี้นับเป็นสถานที่มีความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์ในสมรภูมิรบสมเด็จพระสุริโยทัย เมื่อ พ.ศ.2091 พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้และพระมหาอุปราชาบุเรงนองยกกองทัพพม่า-รามัญเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก โดยผ่านมาทางด้านด่านพระเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรีและตั้งค่ายล้อมพระนคร การศึกครั้งนั้นเป็นที่เลื่องลือถึงวีรกรรมของ สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ซึ่งไสช้างพระที่นั่งเข้าขวางพระเจ้าแปรด้วยเกรงว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พระราชสวามี จะเป็นอันตราย จนถูกพระแสงของ้าวฟันพระอังสาขาดสะพายแล่งสิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง เพื่อปกป้องพระราชสวามีไว้ เมื่อสงครามยุติลง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้ทรงปลงพระศพของพระนางและสถาปนาสถานที่ปลงพระศพขึ้นเป็นวัด ขนาน – นามว่า “วัดสบสวรรค์” (หรือวัดสวนหลวงสบสวรรค์)