เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานอาเซียน ปาฐกถาพิเศษในช่วงบ่ายวันนี้ (27 พ.ค.) ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าการจะทำให้ฆ่าตัดตอนกลับมาอีกครั้ง ว่า ในอดีต เราแก้ปัญหายาเสพติดได้ 99 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันได้แค่ 60 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากยาเสพติดเป็นอาชญากรรมที่เชื่อมโยงกันทั้งโลก อีกทั้งพื้นที่ผลิตอยู่ในสามเหลี่ยมทองคำ พื้นที่อาเซียน และประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางถูกโจมตีเรื่องยาบ้า และเป็นทางผ่าน ประเภทไอซ์ เฮโรอีน เคตามีน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ นายทักษิณเป็นผู้มีประสบการณ์ในการสร้างพลังแผ่นดินเพื่อชนะยาเสพติดได้ และปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน จึงอยากฟังแนวคิดและประสบการณ์ของนายทักษิณ ที่จะพูดโดยตรงกับผู้ปฏิบัติ ที่รับนโยบายมาจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน และเป็นภัยพิบัติแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่มีวาระการเมือง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าร่วมรับฟัง และประโยชน์ตกกับประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการปรากฏตัวของนายทักษิณ ถือเป็นความได้เปรียบในคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่มีประเด็นในเรื่องนี้ มีแต่เรื่องของประชาชน มีความกังวลว่านโยบายปราบปรามยาเสพติดเดิมของนายทักษิณ จะนำกลับมาใช้อีกครั้ง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ประชาชนไม่ได้วิตก แต่เรียกร้องให้แก้ไขปัญหายาเสพติด ขณะที่รัฐบาลปัจจุบัน ใช้หลักนิติธรรมและบังคับใช้กฎหมายอย่างเฉียบขาด โดยผู้มีอิทธิพลและพ่อค้ายาเสพติด จะต้องไม่อยู่เหนือกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่าวิธีปฏิบัติอาจเกิดช่องว่าง ทำให้ประชาชนต้องเกิดความสูญเสียนั้น รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เราแก้ปัญหาต้องการเอาชนะยาเสพติด ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเราจับกุมยาเสพติดภายในประเทศได้เป็นจำนวนมาก ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าไม่ปกติ สะท้อนให้เห็นว่ายาเสพติดทะลักเข้ามา ต้องอาศัยความร่วมมือกับประเทศรอบบ้าน ถือเป็นโชคดีที่ นายทักษิณ ถูกตั้งเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน

เมื่อถามว่าการแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ จะถูกมองว่าเป็นการมอบนโยบายหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนเป็นผู้ปฏิบัติ รวมถึงคนอื่นที่มารับฟัง อาทิ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และทุกภาคส่วน ยืนยันไม่ใช่เรื่องการเมือง ต่อข้อถามว่าทางกฎหมาย นายทักษิณไม่มีตำแหน่งหรืออำนาจใดๆ ที่สามารถสั่งการหรือมอบนโยบายให้กับภาครัฐได้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า แล้วแต่มุมมองและวิสัยทัศน์ที่จะรับฟัง ว่าแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างไร

เมื่อถามว่าทำไมจึงไม่เชิญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาแสดงวิสัยทัศน์เรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีประชุมเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ในฐานะที่คณะกรรมการเร่งรัดและติดตามแก้ไขปัญหา ก็จะฟังประสบการณ์และทัศนคติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือของอาเซียน ที่จะต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่าการปราบปรามยาเสพติด จะไม่เกิดการฆ่าตัดตอนซ้ำรอยในอดีต ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พลวัตเปลี่ยนแปลงไปมาก รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยต้องรับใช้ประชาชน ทุกข์ของประชาชนสูงสุด เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหามั่นคงที่ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า เมื่อถามย้ำว่าฝ่ายค้านระบุว่าการเชิญนายทักษิณ ไปพูดในงานของ ป.ป.ส. เป็นการด้อยค่านายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้ไปขึ้นเวทีกล่าววิสัยทัศน์ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่มีการด้อยค่า มีแต่ชื่นชม แต่ถ้าเราจะเอาคำพูดของคนบางคน ก็พูดได้ ซึ่งเรารับฟัง แต่ทุกคนต้องทำตามนโยบายของนายกฯ ไม่ได้ทำตามนโยบายใคร