เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวน คดีชั้น 14 วันที่ 13 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ และการที่นายทักษิณ จะมีการขึ้นกล่าวปาฐกถาที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) วันนี้ ว่า เรื่องนี้คงต้องแยกกัน สำหรับการปาฐกถาของนายทักษิณ ที่ ป.ป.ส. นั้น จริงๆ แล้วบทบาทนี้ ควรจะเป็นของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเราต้องยอมรับว่า ในวันนี้ปัญหายาเสพติดหนัก เป็นเรื่องที่ไม่มีใครเถียงได้ แต่สิ่งสำคัญคือ เราเองอยากเห็นว่า นโยบายการแก้ปัญหายาเสพติดนี้ น.ส.แพทองธาร มีความคิดอย่างไร

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ดังนั้น การที่อยู่ๆ นายทักษิณได้รับเชิญ ไม่ว่าจะจาก พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หรือใคร แต่ทำไมเราถึงไม่ค่อยเห็น น.ส.แพทองธาร แสดงความคิดเห็น หรือมีการแสดงออกซึ่งวิสัยทัศน์เช่นนี้เลย เวทีนี้ควรจะให้ น.ส.แพทองธาร แสดงออกหรือไม่ เนื่องจากการที่จะให้นายทักษิณมาพูดให้ประชาชนฟัง โดยหยิบยกสงครามยาเสพติด ที่เคยทำตอนที่เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นั่นไม่ใช่โมเดลที่ดี เพราะเราเห็นแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นกับอดีตประธานาธิบดีของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเคยถูกออกหมายจับ และปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ ตนจึงมองว่า การที่นายทักษิณจะมาโชว์วิจัยทัศน์นั้น จึงไม่แน่ใจว่า หากนำเรื่องการฆ่าคนจำนวนมากในยุคสงครามยาเสพติด คงไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีแน่ๆ ในวันที่ น.ส.แพทองธาร ซึ่งเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว หากให้โอกาสนี้เป็น น.ส.แพทองธาร ได้แสดงวิสัยทัศน์ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งประชาชน และ น.ส.แพทองธาร ที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีเอง

“การที่บิดาของตนเองยังคงทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะเป็นเหมือนที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการด้อยค่า น.ส.แพทองธาร ทำให้ น.ส.แพทองธาร ไม่อยู่ในสภาวะที่ประชาชนคิดว่า นี่คือนายกรัฐมนตรีของเขาหรือไม่ ตนจึงคิดว่านายทักษิณ ควรหัดปล่อยมือบ้าง หัดปล่อยให้ลูกสาวตัวเองขึ้นมาพิสูจนฝีมือบ้าง ไม่ใช่ทำนู้นทำนี่แทนลูกสาว ราวกับว่าลูกสาวเป็นนอมินีของตนเอง” นายรังสิมันต์ กล่าว

ส่วนข้ออ้างว่า นายกรัฐมนตรีติดภารกิจ จึงไม่สามารถมาปาฐกถาเรื่องนี้ได้นั้น นายรังสิมันต์ ร้องโอ๊ย ก่อนกล่าวว่า ก่อนจะจัดงานก็คุยกันได้ว่า วันไหนว่าง เรื่องติดภารกิจไม่ได้เป็นสาระสำคัญ หาก น.ส.แพทองธาร ต้องการไปแสดงวิสัยทัศน์ ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว เป็นเรื่องที่คุยกันได้ แต่นี่ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องแรก เราอยากรู้ว่า ตกลงแล้ว น.ส.แพทองธาร มีความคิด แนวทาง วิสัยทัศน์ ในการทำเรื่องต่างๆ อย่างไร เพราะวันนี้เราแทบจะไม่ได้เห็น ไม่ได้ยินเลย เรามารู้จากปากนายทักษิณ ซึ่งก็มักจะเริ่มว่า น.ส.แพทองธาร เล่าให้ฟัง หรือมีโอกาสคุยกับ น.ส.แพทองธาร แต่เราไม่เคยได้ยินจากปากนายกรัฐมนตรีเลย

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า จึงได้ตั้งข้อสงสัยว่า นายกรัฐมนตรีเป็นอะไร ทำไมเรื่องที่คุยกับพ่อ ไม่มาพูดให้ประชาชนฟังบ้าง ตนมองว่า เป็นเรื่องที่แปลกประหลาด อาจเป็นแค่วิธีการที่นายทักษิณใช้แบบนี้ เพื่อที่หลบเลี่ยงไม่ให้ใครไปดำเนินการตามกฎหมาย ว่านายทักษิณครอบงำ น.ส.แพทองธาร อย่างไรก็ตามหวังว่า เราคงไม่ได้ไปใช้แนวทางในการฆ่าคนจำนวนมากอย่างที่เคยทำมาในอดีตอีกแล้ว ควรเปิดโอกาสให้รุ่นลูก หรือ น.ส.แพทองธาร ออกจากใต้เงาของบิดาตัวเอง เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ให้สังคมได้เห็นดีกว่าหรือไม่

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยากจะฝากไปถึงทุกคนว่า ต้นตอของยาเสพติดมาจากกลุ่มว้า ซึ่งไม่ได้มีแค่ปัญหายาเสพติด แต่ยังมีปัญหาเรื่องอื่นๆ อีก รวมถึงกรณีปล่อยให้ทุนจีนเทาเข้าไปทำเหมือง จนส่งผลต่อแม่น้ำกก ตลอดจนเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ ก็มีสาเหตุมาจากตรงนี้เช่นเดียวกัน เพราะว้าเป็นผู้ผลิตยาเสพติดรายใหญ่ โดยไม่มีใครเข้าไปจับกุม หรือดำเนินการ เรารู้ว่ากลุ่มว้านี้ ไม่ต่างอะไรกับอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ต่างอะไรกับกลุ่มก่อการร้าย

สำหรับกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ชมนายทักษิณกลางเวทีอาเซียนนั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จะยิ่งตอกย้ำในเรื่องนี้หรือไม่นั้น มองว่าในเวทีระหว่างประเทศ เขาไม่ด่ากันตรงๆ อยู่แล้ว ก็ต้องชมกันเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งนายทักษิณก็เป็นที่ปรึกษาของนายอันวาร์ มีการชมกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้เป็นสารัตถะอะไร ที่เราจะควรนำมาใส่ใจ เพราะตนมองว่า สิ่งที่รัฐบาลนี้ ต้องการมากที่สุด คือคำชมและความเชื่อมั่นจากประชาชน เพราะวันนี้เราเจอภัยหลายรูปแบบ และประเทศไทยก็เจอความท้าทายในหลากหลายมิติ สิ่งที่เราต้องการเห็นคือ เมื่อไหร่รัฐบาลนี้ จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้ คุยกันให้ชัด เอาวันเวลาที่มีความคืบหน้ามาแสดงให้ประชาชนเห็นเลย จะแฟร์มากกว่า.