ปัญหาระหว่างชาวบ้านกับสองสามีภรรยาที่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ส่อเค้าวุ่นไม่จบง่ายๆ หลังมิเตอร์น้ำประปาถูกถอดจากกรณีไม่ยอมเปิดทางเข้าสู่ศาลปู่ตาประจำหมู่บ้าน แม้เจ้าของที่ยืนยันว่ามีเอกสารสิทธิในที่ดินและมีทางเข้าอื่น ทว่าฝ่ายผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านก็ยังคงยืนกรานตามมติประชาคม ล่าสุดตัวแทน อบต. ย้ำชัดเจนว่า “ถ้าไม่เปิดทาง เราก็ไม่ให้ใช้น้ำ”
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อนายฉลู เปรียวไธสง วัย 62 ปี และนางบุษกร เปรียวไธสง วัย 62 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของบ้านเลขที่ 222 บ้านโพธิ์พัฒนา หมู่ 13 ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ ได้ออกมาร้องสื่อว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากถูกนางเยาวมาลย์ รักงาม ผู้ใหญ่บ้านบ้านจอก หมู่ 3 และพวกร่วมกันถอดมิเตอร์น้ำประปาหมู่บ้าน ด้วยเหตุผลว่าทั้งสองได้ล้อมรั้วในที่ดินของตนเอง โดยไม่แบ่งพื้นที่เป็นทางเดินเข้าสู่ศาลปู่ตาประจำหมู่บ้าน

ขณะที่สองสามีภรรยาให้เหตุผลว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นโฉนดส่วนตัว มีความจำเป็นต้องล้อมรั้วเพื่อป้องกันคนร้ายเข้ามาขโมยทรัพย์สิน ที่มักจะหายไปอยู่เป็นประจำ พร้อมชี้แจงว่ามีเส้นทางอื่นที่สามารถใช้เดินเข้าสู่ศาลปู่ตาได้อยู่แล้ว
ด้านผู้ใหญ่บ้านได้ออกมาโต้แย้งว่า การล้อมรั้วของสองสามีภรรยา เป็นการจงใจสร้างภาระให้ชาวบ้าน เนื่องจากเส้นทางอื่นที่กล่าวอ้างนั้น เป็นที่ดินของบุคคลอื่น ประกอบกับชาวบ้านเคยใช้เส้นทางเดิมมาโดยตลอด ส่วนเรื่องทรัพย์สินถูกขโมย ถือเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเจอ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ค. นายพนมรุ้ง โพธิ์ขำ อายุ 70 ปี สมาชิก อบต. หมู่ 3 บ้านจอก ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนที่จะมีการตัดมิเตอร์น้ำ ได้มีการจัดประชาคมร่วมกับชาวบ้านกว่า 60-70 คน จากทั้งหมดประมาณ 400 คน ซึ่งชาวบ้านต่างมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า “ถ้าเขาไม่ให้ผ่านทาง เราก็ไม่ให้ใช้น้ำ” ส่วนทางที่เจ้าของที่ดินอ้างว่าทำไว้ให้นั้น ก็ไม่ใช่ทางสาธารณะ แต่เป็นที่ดินของคนอื่น ซึ่งตนไม่ทราบว่าการกระทำนี้ จะผิดกฎหมายหรือไม่ แต่หากผิด ก็จะผิดกันทั้งหมู่บ้าน เพราะเป็นการลงมติร่วมกันโดยไม่มีข้อแม้

นายพนมรุ้ง กล่าวสรุปว่า “จริงแล้วถ้าสองสามีภรรยามาติดต่อเราว่า ผมจะให้ผ่านทางได้ มาขอเราดีๆ เราก็จะให้ใช้น้ำได้เหมือนเดิม แค่นั้นเรื่องมันก็จบ คือถ้าให้ผ่านทางเหมือนเดิมก็จะต่อน้ำให้ ถ้าจะล้อมรั้วจะต้องเหลือที่ดินให้ชาวบ้านเดิน” พร้อมยืนยันว่าประปาหมู่บ้านเป็นของ อบต. และได้ยกให้หมู่บ้านเป็นคนดูแล โดยทิ้งท้ายว่า “สรุปถ้าเขาไม่ให้ไป เราไม่ให้ใช้” ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังคงต้องรอให้เจ้าของที่ดินยอมเปิดทางตามที่ชาวบ้านต้องการ จึงจะมีการต่อมิเตอร์น้ำให้ตามเดิม
ความขัดแย้งนี้ยังคงไร้ข้อสรุป ท่ามกลางบรรยากาศในหมู่บ้านที่ยังคงคลุมเครือ และต้องติดตามกันต่อไปว่าทางออกของปัญหานี้จะจบลงอย่างไร