ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 “หมอเจด-เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์” รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หรือที่หลายคนรู้จักดีว่าเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “หมอเจด” ที่มักจะโพสต์ให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ ได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์คุมอาหารด้วยวิธี IF และข้อดีต่างๆ โดยระบุว่า “IF มันช่วยให้ผมหายจากเบาหวานได้ยังไง”

1.ก่อนอื่นต้องเข้าใจนะครับว่าการเป็นเบาหวานมันมีหลายชนิด และชนิดที่คนส่วนใหญ่เป็น ก็คือเกิดจากการที่เราดื้ออินซูลิน ซึ่งการที่เราดื้ออินซูลิน เพราะว่าน้ำตาลที่อยู่ในกระแสเลือด มันไม่สามารถเข้าไปในเซลล์ร่างกายเราได้แล้ว ก็เลยพยายามที่จะเพิ่มอินซูลินเข้าไปอีก แต่ยิ่งเพิ่มก็ยิ่งทำอะไรไม่ได้ เพราะว่ามันดื้อซึ่งเหมือนคนดื้อยานั่นเอง

2.หลายคนผมแนะนำนะครับ ช่วงจะลดน้ำหนักและหายเบาหวาน GOOD FOOD BEFORE GOOD FAST เป็นสิ่งที่ต้องทำก่อนเสมอ แต่ในคนที่เป็นเบาหวานอย่างผมเอง จะกินอาหารดีแค่ไหนก็ตาม ถ้าไม่ปล่อยให้ตับอ่อนแม่งพักเลย แม่งก็ยากที่จะทำให้อินซูลินไม่ออกมาเพ่นพ่าน มันก็เหมือนจะยิ่งซ้ำเติมเขาเข้าไปอีก

3.คราวนี้มาดูกันว่าไอเอฟช่วยอะไรบ้าง เวลาไม่กินอะไรเข้าไปข้อที่หนึ่ง อินซูลินก็ไม่ออกมาทำงาน แต่ร่างกายก็ยังจำเป็นต้องใช้พลังงานต่อไปเรื่อยเรื่อย ในช่วง 4 ชั่วโมงแรกหลังจากที่กินอาหาร ร่างกายจะใช้น้ำตาลจากของที่กินเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นจากคาร์โบไฮเดรตหรือว่าจากโปรตีน แล้วหลังจากนั้นตอน 4-12 ชั่วโมง จะใช้พลังงานจากไกลโคเจนที่เก็บไว้ในตับ ซึ่งพอพ้นชั่วโมงที่ 12 เป็นต้นไป ร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่าการเผาไขมันออกมาเป็นพลังงานแทนน้ำตาล ซึ่งปฏิกิริยานี้ในคนที่เป็นเบาหวานแรกๆ จะเกิดหลังจากไม่ได้กินอะไรมา 12 ชั่วโมง

4.คราวนี้นอกจากใช้ไขมันที่เก็บไว้ออกมาเป็นพลังงานได้แล้ว โดยหลักๆ ที่ชอบใช้กันก็คือไขมันในช่องท้อง ซึ่งไขมันในช่องท้องนี่แหละ เป็นตัวที่คอยทำให้อินซูลินดื้อหนักหนัก ซึ่งถ้าเราทำบ่อยๆ คืองดกินมากกว่า 12 ชั่วโมง โดยที่อาจจะเป็น 16 ถึง 18 ชั่วโมง ก็ได้ นอกจากไขมันในช่องท้องที่ถูกใช้เป็นพลังงาน ไขมันที่เก็บสะสมไว้ในตับ หรือที่เรียกว่าไขมันพอกตับ ก็จะถูกสลายออกมาด้วยอันนี้เลยได้กำไรสองต่อ

5.คราวนี้ขอทำไปเรื่อยๆ ต้องใช้คำว่าต่อเนื่องนานระดับหนึ่ง อินซูลินที่ดื้อก็จะกลับมาทำงานได้ดีเหมือนเดิม รวมถึงไขมันที่เก็บสะสมไว้ก็จะลดลงไปเรื่อยเรื่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่างที่บอกครับ ของพวกนี้มันไม่ได้ทำแป๊บเดียวแล้วดีขึ้น คงต้องเปลี่ยนให้มันเป็นวิถีของชีวิตตัวเอง ซึ่งจริงๆ แล้วผมมองว่านอกจากเรื่องใช้ไขมัน ลดการดื้ออินซูลิน ยังช่วยเรื่อง Autophagy ซึ่งเอาจริงๆ ก็ช่วยเบาหวานได้ระดับหนึ่งนั่นแหละคือการจัดการเซลล์เก่าๆ เซลล์ที่ไม่ค่อยฟังก์ชันแล้วให้หมดไป คนดีๆ คนใหม่ใหม่จะได้ขึ้นมาทำงานแทนซะ

โดยสรุปแล้วสำหรับผม บางคนที่ดื้ออินซูลินมากๆ หรือไขมันพอกตับมากๆ หรือมีไขมันในช่องท้องเยอะ การปรับตัวโดยการแค่ปรับเปลี่ยนอาหาร บางครั้งอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้หายดื้ออินซูลินได้ นอกจากการทำไอเอฟแล้ว อาจจะต้องเพิ่มในเรื่องของการออกกำลังกายให้มากขึ้น ทั้งคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง ไม่อย่างนั้นเส้นเลือดสมองตีบแน่…

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @หมอเจด