สัปดาห์นี้จะมาแนะนำผักประโยชน์ ที่กำลังได้รับความนิยม และสามารถปลูกเลี้ยงได้เองที่บ้าน เป็นผักที่สารอาหารมากแต่น้ำตาลในตัวผักน้อย เหมาะกับคนรักสุขภาพ และลดน้ำหนัก มารู้จักผักชนิดนี้ให้มากขึ้นกันนะครับ

ผักเคล หรือคะน้าใบหยัก เป็นพืชที่พบเห็นได้ทั่วไปในทวีปยุโรป แต่จริงๆแล้วมันอยู่ในพืช ตระกูลเดียวกับ ผักบร็อคโคลี่ และดอกกะหล่ำ ผักเคลขึ้นชื่อว่าเป็น สุดยอดอาหาร ที่ดี มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ด้รับฉายาและถูกขนานนามว่า “The new beef” เนื้อรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ไขมันดี โอเมก้า 3 วิตามินเอ ซี เค อี ธาตุเหล็ก โฟเลท ลูทีน ไนอาซีน แคลเซียม แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม โซเดียม และ ซิงก์ มีแคลอรีต่ำ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ มีแคลเซียมสูงกว่านมวัวถึง 3 เท่า และมีแคลเซียมสูงกว่าผักโขมถึง 14 เท่า มีปริมาณกากใยไฟเบอร์สูง ดีต่อระบบย่อยและขับถ่าย ช่วยลดน้ำหนัก และมีวิตามิน A สูงมาก ช่วยบำรุงสายตา ปอด และผิวพรรณให้แลดูสดใส เปล่งปลั่ง

เคล เป็นผักเมืองหนาว ชอบอากาศเย็น อุณหภูมิระหว่าง 20-25 องศาเซลเซียส ถ้าหนาวเกินไปจะเจริญเติบโตได้ช้า และถ้าอุณหภูมิร้อนกว่า 30 องศาเซลเซียส ผลผลิตที่ได้จะมีคุณภาพต่ำ ใบผักจะเหนียว วิธีปลูกเลี้ยงได้เหมือนผักทั่วไป จะปลูกได้ดีในช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน จนถึงปลาย เดือนกุมภาพันธ์ ใช้เมล็ดในการปลูก ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้ นำมาประกอบอาหารได้ กินสดมีรสชาติดี นำไปปั่นดื่ม อาจเหม็นเขียวบ้างแต่น้อยกว่าผักทั่วไป

เป็นผักที่มีประโยชน์เยอะและยังปลูกเลี้ยงง่าย ปลูกเลี้ยงได้เหมือนผักประเภทอื่น ถือว่าน่าสนใจทีเดียวครับ และมีงานวิจัยว่า ดื่มน้ำผักเคลเป็นประจำทุกวันติดต่อกัน 12 สัปดาห์ จะช่วยลดคอเลสเตอรอล และในผักเคลยังมีวิตามินซีมากกว่าส้ม และไม่มีน้ำตาลเลย เป็นผักเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง ลองหาเมล็ดมาปลูกติดบ้าน กันดูนะครับ

………………………………….
คอลัมน์ “มหัศจรรย์พรรณไม้”
เขียนโดย เอกลักษณ์ ถนัดสวน