ต้องยกให้เป็นอีกหนึ่งสาวหน้าเด็กตลอดกาลเลยก็ว่าได้ สำหรับ “พิมพ์ พิมพ์มาดา” ที่ก่อนหน้าที่ได้ตัดสินใจขึ้นเขียงโมหน้า เนรมิตโฉมใหม่ย้อนวัยไปเป็นสิบปีเพราะอยากทำในวันที่ร่างกายยังไหว หลังที่หน้าเริ่มเข้าที่ได้เห็นผลลัพธ์แล้วหลายคนเห็นแล้วก็ร้องว้าวไปตามๆ กันเลยทีเดียว
ล่าสุด ในงานเปิดตัวแคมเปญ “Dimk to Share” พิมพ์ พิมพ์มาดา ได้มาร่วมงาน ซึ่งหลังจากจบงานก็ได้เปิดใจกับสื่อมวลชน ถึงเหตุผลที่ตัดสินใจศัลยกรรมครั้งแรก โดย พิมพ์ เผยว่า
“ศัลยกรรมครั้งแรกไม่เครียดเลยเพราะว่าตั้งใจแล้วก็รู้ลิมิตของเราที่จะทำคือทำแค่ไหนทำประมาณไหนก็เลยไม่ได้กังวลอะไร คือจริงๆ เราไปนั่งปุ๊บไม่ต้องพูดอะไรเลย คุณหมอบอกเราทันที จิ้มเลยว่าต้องทำอะไรเหมือนกับที่เราอยากทำทุกอย่าง จริงๆ เราก็แค่อยากยกให้มันดูสดชื่นขึ้นแต่ว่าให้มันเป็นโครงหน้าเราเดิม ถามว่าย้อนวัยไปกี่ปี ก็ไม่กล้าพูด เราคุยกับแม่ทุกวันว่าแม่นี่มันดีแล้วใช่ไหม มันทำแล้วมันโอเคใช่ไหม คุณหมอบอกว่าให้รอ 3 เดือนถึง 6 เดือน แต่ตอนนี้มันแค่ 2 เดือนอยู่ เราเข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่เช้าออกมาก็มืดเลยเหมือนกันนะ 5-6 ชั่วโมงเหมือนกัน”

“ก็ยกช่วงข้างล่างเก็บคอนิดนึง แค่นี้ คือไม่ได้ทำเยอะทำผิว ถามว่าเจ็บมากไหม 3-4 วันแรกก็เอาเรื่องอยู่ กินข้าวไม่ได้ พูดได้นิดหน่อย อย่างที่เราลงรีวิวไปคือมันเป็นอย่างนั้น หลังจาก 4 วันก็คือดีขึ้นเลย ทานได้เดินเล่นได้ปกติพอ ทำเสร็จก็นอยด์เหมือนกัน เหมือนทุกคนก็รอดูว่าจะเป็นยังไง ก็นอยด์คนบอกว่าไหนทำแล้วเหรอ หลายคนไม่ได้เจอเรานานไม่รู้ว่าเราแก่ไปเยอะแค่ไหน ก็จริงๆ อย่างที่บอกมันทำไม่ได้เยอะมาก เพราะว่าเราไม่ได้ทำจากตอนที่เราอายุ 60 เราอยากทำวันนี้เพราะเราอยากดูดีตอนนี้เลย ถ้าดูดีขึ้นนิดนึงก็ดีใจแล้ว คือตอนนี้เรารู้สึกว่าในวัยเราร้อยไหมอาจจะเอาไม่อยู่ คือเจ็บทีเดียวไปเลย อยู่อีกสัก 5 ปี 10 ปี ก็น่าจะแบบดี เดี๋ยวรอให้มันเข้าที่สัก 3-6 เดือน อย่างที่คุณหมอบอกก่อน ตอนนี้ก็ยังยิ้มไม่สุดเลยค่ะ ยังรู้สึกว่ายิ้มไม่ค่อยสุด ถามว่าคุณหมอว่ายังไงบ้างหลังทำเสร็จ“


“เราก็มีคุยกับคุณหมอบ้าง ก็ส่งรูปอัปเดตให้ดู คุณหมอก็บอกว่ารอเลยเดี๋ยวดี ไม่ต้องระวังอะไรเลย ไม่ต้องกลับมากินยา ไม่ต้องกลับมาพันหน้า ไม่มีอะไรเลย คุณหมอแค่ให้รอเวลาอย่างเดียว อย่างที่เราบอกว่า เราอยากดูดีวันนี้เลย เราไม่อยากรอต้องเหี่ยวย้อยแล้วถึงไปทำ เรารู้สึกว่าเราอยากยืดเวลาของเราตอนนี้ จาก 45 ไปถึงสัก 55 เพราะเราไม่รู้ว่าอีก 10 ปี ร่างกายเรายังจะพร้อมจะทำไหมหรืออะไรจะเกิดขึ้น เราพร้อมวันนี้ อย่างที่ทุกคนบอกว่า ติดว่าเราหน้าเด็ก ทุกคนก็จะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเอารูป Before และ After มาเทียบกัน คือเราก็หย่อนตามวัยเหมือนคนอื่น จริงๆ เล่นละครก็เป็นแม่เป็นอะไรถูกไหม ฉะนั้นตอนนี้เราก็คืออยากเป็นแม่ที่สดชื่นขึ้น ไม่ได้บอกว่าอยากจะกลับไปเล่นบทเด็ก ถามว่าเรารู้สึกแก่ตอนไหน เราก็รู้ตัวเองว่าตรงนี้มันเริ่มหย่อนแก้มก็เริ่มห้อย ทุกวันส่องกระจกใครไม่ทำบ้างแบบยกกระชับดึงหน้าขึ้น แล้วเราคิดว่ามันดีขึ้นหมอน่าจะช่วยได้”
“ในความเป็นจริงมันก็ทำไม่ได้ ทุกอย่างมันต้องเปลี่ยนแปลงไปตามวัย แต่เราก็ยื้อที่สุดเท่าที่จะยื้อได้ (มีแพลนอยากทำอะไรอีก?) ไม่แล้วค่ะ พี่แหม่มให้เราค่อยๆ ด้วยซ้ำ ตอนแรกเราบอกแม่ทำตาเติมตรงนั้นดีไหม แล้วพี่แหม่มบอกหยุดพอ พี่แหม่มจะคอยปรามเพราะว่าเขาผ่านมาแล้ว เป็นการทำหน้าครั้งแรก ในชีวิตคนเราคงทำไม่ได้หลายครั้ง เดี๋ยวรอให้ถึงวันนั้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน”


ขอบคุณภาพจาก:pimmada