ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังเดินหน้าดำเนินคดีอาญาฐานความผิดฟอกเงิน และอั้งยี่กับก๊วน สว.สีน้ำเงิน เช่นเดียวกับ “เจ้แมว” กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. ที่เล่นใหญ่ยื่นสอบจริยธรรม “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ “ณฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ลุยเดินหน้ายื่นยุบพรรคภูมิใจต่อ กกต. ซึ่งกลุ่มก้อนเหล่านี้ถูกมองว่ามีเป็นตัวแทนของค่ายสีแดง พรรคเพื่อไทย
ในฟากฝั่งการเมืองขณะนี้“นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เดินหน้าไล่บี้ยึดกระทรวงมหาดไทยคืนจากพรรคภูมิใจไทย เพื่อหวังใช้เป็นกลไกวางเครือข่ายอำนาจทางการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงประเทศปูทางสู่การเลือกตั้งปี 2570
โดยการเดินเกมครั้งนี้ยังไม่มีทีท่าประนีประนอม แม้ว่านายใหญ่เพื่อไทยจะติดบ่วงปมชั้น 14 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้นัดพิจารณาในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เนื่องจากมั่นใจว่าตัวเองสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ หลัง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้ทำการวีโต้มติแพทยสภาที่ลงโทษ 3 นายแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับกรณีป่วยทิพย์ของ“ทักษิณ”
ขณะที่พรรคสีน้ำเงิน ภูมิใจไทยที่มี “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ กุมบังเหียนเหมือนกับถูกต้อนเข้ามุม หลังถูกดีเอสไอกับ กกต. ไล่บี้อย่างหนักปมส่อฮั้วเลือก สว. เช่นเดียวกับหัวหน้าพรรคที่ถูกดิสเครดิตการทำงานและขู่ริบกระทรวงมหาดไทยรายวัน แม้จะใช้ความนิ่งเข้าสยบความเคลื่อนไหว แต่อีกด้านหนึ่งก็เปิดแนวรบเอาคืน ด้วยการส่ง “ศุภชัย ใจสมุทร” มือกฎหมายของพรรคเปิดฉากฟัดกับ “ณฐพร” โดยระบุว่ามีคดีเก่าฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นกว่า 400 ล้านบาท ส่อสมคบคิดกับดีเอสไอเพื่อให้คดีนี้หมดอายุความหรือไม่ จนสุดท้ายนักร้องคนดังต้องถอยออกมาตั้งหลักไปรายตัวต่ออัยการก่อน
สอดคล้องกับ “สว.สีน้ำเงิน” ที่เดินหน้าพึ่งองค์กรอิสระ โดยล่าสุดผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องที่คณะ สว.ร้องสอบสวนดีเอสไอ ใช้อำนาจไม่ชอบปมแทรกแซงการทำหน้าที่ของ กกต.ในคดีฮั้วเลือก สว. อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองคณะกรรมการคดีพิเศษ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี โดยศาลรัฐธรรมนูญ รับฟ้อง และหยุดปฏิบัติหน้าที่ พ.ต.อ.ทวี ไปแล้ว รวมถึงยื่นร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ลงโทษ พ.ต.อ.ทวี กับ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่ง ป.ป.ช.ได้รับคำร้อง และตั้งกรรมการตรวจสอบแล้ว

การที่ 3 องค์กรอิสระดังกล่าวออกมารับลูก ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าการกระทำของคณะกรรมการคดีพิเศษที่มีมติรับคดีฟอกเงินและอั้งยี่ในการเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ เข้าข่ายองค์ประกอบความผิดทั้งกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญา
ด้วยนิติสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างค่ายแดงและน้ำเงิน จึงต้องจับตาว่าคดีฝ่ายใดจะเดินเร็วติดจรวดกว่ากัน ซึ่งจะสะท้อนทิศทางว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะในเกมอำนาจครั้งนี้.