สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ว่า รัฐบาลเม็กซิโกระบุว่า การปฏิรูปที่ทำให้เม็กซิโกกลายเป็นประเทศแรก และประเทศเดียวในโลก ซึ่งเลือกผู้พิพากษาทุกคนด้วยคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตนั้น มีความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาการทุจริตและการยกเว้นโทษที่หยั่งรากลึกในประเทศ
“ผู้ที่ต้องการให้ระบอบการทุจริตและสิทธิพิเศษในระบบตุลาการดำเนินต่อไป ต่างกล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการจัดฉากหลอกลวง และทำให้พรรคการเมืองสามารถควบคุมศาลฎีกาได้ แต่มันไม่มีอะไรห่างไกลจากความจริงไปกว่านี้อีกแล้ว” ประธานาธิบดีคลอเดีย ไชน์บาว์ม ผู้นำเม็กซิโก กล่าวในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในวันก่อนการเลือกตั้ง


แม้ชาวเม็กซิกันบางคนกล่าวว่า แรงจูงใจหลักของพวกเขาในการลงคะแนนเสียง คือ ความรู้สึกรังเกียจที่มีต่อระบบตุลาการของประเทศในปัจจุบัน เนื่องจากการทุจริต อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิจารณ์และผู้สันทัดกรณีแสดงความกังวลว่า ระบบยุติธรรมของเม็กซิโก จะถูกทำให้เป็นการเมือง และอาชญากรอาจใช้การข่มขู่คุกคามและการติดสินบน เพื่อมีอิทธิพลต่อศาลได้ง่ายขึ้น
ขณะที่ นายเดวิด เชิร์ก ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยซานดิเอโก และหัวหน้าโครงการวิจัย “จัสติส อิน เม็กซิโก” ชี้ให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวเม็กซิกันหลายคนอาจไม่ลงคะแนนเสียง ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “ความซับซ้อนของการเลือกตั้ง” อีกทั้งเขาเชื่อว่า ปัญหาคอร์รัปชั่นส่วนใหญ่ในระบบตุลาการของเม็กซิโก อยู่ในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และสำนักงานอัยการของประเทศ.
เครดิตภาพ : AFP