สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ว่าสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา แถลงต่อที่ประชุมร่วมระหว่างสภาผู้แทนราษฎรกับวุฒิสภา ว่าการที่กัมพูชาเชิญไทยให้ร่วมกันยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) หรือศาลโลก ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นการให้เกียรติประเทศเพื่อนบ้าน ในการร่วมกันคลี่คลายความขัดแย้ง โดยใช้วิธีการทางการทูต
Prime Minister Hun Manet reaffirmed that Cambodia will still proceed to complain to the International Court of Justice (ICJ) to resolve and definitively settle the matter. https://t.co/YPHTkHl47A
— Khmer Times (@KhmerTimes) June 2, 2025
สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า หากไทยยังคงปฏิเสธและหลีกเลี่ยงการใช้วิธีการดังกล่าว สะท้อนชัดเจนว่า “ฝ่ายไทยมีเจตนาซ่อนเร้น” เพราะ “หากบริสุทธิ์ใจ ทำไมต้องกลัวการขึ้นศาล”
ขณะเดียวกัน สมเด็จฮุน เซน กล่าวว่า บันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ที่ทั้งสองประเทศลงนามร่วมกัน เมื่อปี 2543 “ใช้ไม่ได้อีกต่อไป” เพราะผ่านมาแล้ว 25 ปี แต่กัมพูชาและไทยยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ ยิ่งไปกว่านั้น การปะทะกันทางทหารครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทหารกัมพูชานายหนึ่งเสียชีวิต
Government plans to bring its border dispute with Thailand to the International Court of Justice (ICJ) has garnered support from the former prime minister and the general public, while the Ministry of Foreign Affairs and International Cooperation has d…https://t.co/is835WxSNI
— The Phnom Penh Post (@phnompenhpost) June 2, 2025
สมเด็จฮุน เซน กล่าวต่อไปว่า หากไม่ให้ศาลโลกเข้ามาตัดสินเรื่องนี้ พื้นที่ดังกล่าวอาจกลายเป็นเหมือน “ฉนวนกาซา” เหมือนความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ซึ่งไม่มีวันจบสิ้น
ทั้งนี้ สมเด็จฮุน เซน ยืนยันว่า ไม่เคยมีเจตนายึดครองดินแดนของประเทศใด กัมพูชาเพียงต้องการรักษาแผ่นดินที่เป็นมรดกสืบทอดตั้งแต่สมัยยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ซึ่งจนถึงปัจจุบัน “กัมพูชาสูญเสียดินแดนไปมากแล้ว” และเตือนว่า หากมีการปะทะเกิดขึ้นอีก กัมพูชาจะร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี)
อนึ่ง ในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมร่วมสองสภามีมติเป็นเอกฉันท์ ให้รัฐบาลดำเนินการยื่นเรื่องต่อไอซีเจหรือศาลโลก เพื่อให้พิจารณาข้อขัดแย้งเรื่องดินแดนระหว่างกัมพูชากับไทย.
เครดิตภาพ : AFP