สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งเกาหลีใต้ประกาศผลอย่างเป็นทางการ ของการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งมีการลงคะแนนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าผู้ชนะคือ นายอี แจ-มยอง ตัวแทนพรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 17,287,513 คะแนน คิดเป็น 49.42%
ตามด้วยนายคิม มุน-ซู ตัวแทนพรรคพลังประชาชน (พีพี) ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 14,395,639 คะแนน คิดเป็น 41.15% ขณะที่จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิอยู่ที่ 79.38% เป็นสถิติสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2540
ทั้งนี้ นายอี แจ-มยอง ต้องเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้นำคนที่ 14 ของเกาหลีใต้ทันที โดยไม่มีช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนกำหนด เพื่อหาผู้นำคนใหม่แทนอดีตประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ซึ่งต้องพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึก ระหว่างวันที่ 3-4 ธ.ค. 2567
ขณะที่ผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของประชาชน และยกย่องจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิซึ่งสูงที่สุดในรอบ 28 ปี พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า จะพยายามอย่างสุดความสามารถ ในการบริหารประเทศด้วยความรับผิดชอบและมุ่งมั่น ให้สมกับที่ประชาชนมอบความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ ในการฟื้นฟูเกาหลีใต้จากวิกฤติกฎอัยการศึก ซึ่งส่งผลกระทบต่อกิจการภายในแทบทุกด้าน
การขึ้นสู่ตำแหน่งของนายอี แจ-มยอง ถือเป็นจุดเปลี่ยนของการเมืองภายในเกาหลีใต้อีกครั้ง จากฝ่ายอนุรักษนิยมสู่ฝ่ายเสรีนิยม ที่คราวนี้จะยิ่งมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากพรรคดีพีครองเสียงข้างมากในสภาแห่งชาติด้วย อย่างไรก็ตาม เส้นทางของผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่ เต็มไปด้วยความท้าทายจากทั้งภายในและภายนอก
ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากนโยบายการค้าของสหรัฐ การกระตุ้นอัตราการเกิดของเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ในกลุ่มต่ำที่สุดเป็นอันดับต้นของโลก และความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ ซึ่งนายอี แจ-มยอง กล่าวตั้งแต่ช่วงหาเสียง ว่าต้องมีการเพิ่มการติดต่อประสานงานกัน โดยจะกลับมาใช้โทรศัพท์สายด่วนถึงกันอีกครั้ง.
เครดิตภาพ : AFP