สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ว่า พื้นที่บางส่วนของแคนาดา และประเทศเพื่อนบ้านอย่างสหรัฐ ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับคุณภาพอากาศที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยรัฐซัสแคตเชวัน และรัฐมานิโตบาของแคนาดา เป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด และทั้งสองรัฐประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

นางเอเลนอร์ โอลเซวสกี รมว.การจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลกลางแคนาดา กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงออตตาวา ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับชาวแคนาดาหลายคน เนื่องจากฤดูไฟป่าของปีนี้เริ่มต้นเร็วขึ้น และรุนแรงยิ่งขึ้น

อนึ่ง ศูนย์ดับไฟป่าระหว่างหน่วยงานของแคนาดา ระบุว่า ประเทศเกิดไฟป่า 208 จุด โดยในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่ง “ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้” ซึ่งประชากรที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมือง และชุมชนขนาดเล็กบางแห่งถูกไฟไหม้จนวอดวาย

ขณะเดียวกัน ควันไฟป่าที่หนาทึบปกคลุมพื้นที่ส่วนหนึ่งของทวีปอเมริกาเหนือ ส่งผลให้ประชาชนใน 4 รัฐของแคนาดา รวมถึงรัฐมิชิแกน รัฐมินนิโซตา รัฐเนแบรสกา และรัฐวิสคอนซินของสหรัฐ ต้องจำกัดกิจกรรมกลางแจ้ง

ทั้งนี้ กระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของแคนาดา ระบุในแถลงการณ์ว่า ควันไฟป่าทำให้คุณภาพอากาศและทัศนวิสัยย่ำแย่ ขณะที่สำนักงานบริการเฝ้าติดตามชั้นบรรยากาศโคเปอร์นิคัส หรือ “แคมส์” (CAMS) ระบุเสริมว่า กลุ่มควันไฟป่าขนาดใหญ่จากแคนาดา แผ่ขยายมาถึงยุโรปแล้ว และคาดว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กลุ่มควันจะปกคลุมหลายพื้นที่ของทั้งสองทวีป.