ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมโรงแรมริเวอร์ตัน จ.สมุทรสงคราม นางวันเพ็ญ มังศรี รอง ผวจ.เพชรบุรี นายกรกฎ วงษ์สุวรรณ รอง ผวจ.สมุทรสงคราม และนายปรีดา สุขใจ รอง ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมเป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (กรอ.กลุ่มจังหวัด) เพื่อหารือเรื่องการพัฒนาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 ได้แก่ จ.เพชรบุรี จ.ประจวบฯ จ.สมุทรสงคราม และ จ.สมุทรสาคร โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจาก 4 จังหวัดรวมกว่า 70 คน ร่วมประชุม
น.ส.มิ่งขวัญ บุญโคภัย ท่องเที่ยวและกีฬา จ.เพชรบุรี รายงานสถานการณ์การท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 เดือนมกราคม-เมษายน 2568 จากข้อมูลกองเศรษฐกิจ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สรุปว่าจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 3,976,173 คน แยกเป็นชาวไทย 3,714,014 คน ชาวต่างชาติ 262,132 คน มีรายได้รวม 18,943 ล้านบาท รองลงมาคือ จ.เพชรบุรี 3,816,483 คนแยกเป็นชาวไทย 3,709,567 คน ชาวต่างชาติ 106,916 คน มีรายได้รวม 12,687 ล้านบาท อันดับ 3 จ.สมุทรสงครามมีนักท่องเที่ยว 2,069,027 คน แยกเป็นชาวไทย 2,010,286 คน ชาวต่างชาติ 58,741 คน มีรายได้รวม 2,684 ล้านบาท และ จ.สมุทรสาคร นักท่องเที่ยว 611,070 คน แยกเป็นชาวไทย 605,406 คน ชาวต่างชาติ 5,664 คน มีรายได้รวม 1,055 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามปี 2568 รัฐบาลประกาศให้เป็นปี”Amazing Thailand Grand Tourism And Sports Year 2025″ เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค มีเป้าหมายที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทย 39 ล้านคนและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท สำหรับกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนโดยความร่วมมือจากผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมุ่งเน้นด้านโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการให้เข้าสู่มาตรฐานการท่องเที่ยวไทยและเกณฑ์คุณภาพที่พักนักเดินทางและมาตรฐานโฮมสเตย์ไทย ด้านความปลอดภัย มุ่งพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อเป็นเจ้าบ้านที่ดีและบูรณาการความร่วมมือในการให้บริการ 1155 call center เป็น one- stop service ให้บริการ 24 ชั่วโมงรวมทั้งการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่านสื่อต่างๆ และพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะมัคคุเทศก์ที่มีความสามารถในการพูดภาษาต่างประเทศได้หลายภาษา เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวได้อย่างมีคุณภาพ

นอกจากนี้ยังได้ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการจราจร ของกรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเช่นปัญหาน้ำท่วมถนนพระราม 2 ช่วงบ้านแพ้ว-บางโทรัด และช่วงมหาชัย-ท่าจีน จ.สมุทรสาคร ส่วนการก่อสร้างทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว ขณะนี้การก่อสร้าง 92% คาดว่าจะเปิดใช้ในเดือนสิงหาคม 2568 ส่วนโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพฯ ด้านตะวันตกภาพรวมก้าวหน้ากว่า 89% แล้ว
นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานหอการค้า จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่าปํญหาน้ำท่วมถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนสายหลักในการสัญจรสร้างความเสียหายทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม กอร์ปกับช่วงฝนตกหนักน้ำท่วมถนนทำให้เกิดปัญหาการเดินทาง คนไม่อยากท่องเที่ยวผ่านถนนพระราม 2 การขุดลอกคูคลองที่ตื้นเขินช่วยแก้ปัญหาทางหนึ่ง แต่ปัญหาทางคู่ขนานสูงกว่าทางหลักไม่ทราบว่าต้องรอให้ทางหลักเสร็จก่อนหรือไม่

นายวีระนิจ เหลืองรัตนเจริญ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.สมุทรสงครามกล่าวว่า ควรแบ่งเฟดพื้นที่การก่อสร้างถนนพระราม 2-บ้านแพ้วมาเร่งทำระบบระบายน้ำอย่างเร่งด่วนให้เสร็จก่อนเพราะเส้นทางการระบายน้ำของเมืองปลายน้ำไม่ใช่แค่ต้องรองรับน้ำ แต่ต้องรองรับทรายและโคลนเลนจึงเกิดปัญหาอุดตันน้ำท่วมขังเพราะตอนนี้เส้นทางการจราจรและทางเชื่อมยังไม่เสร็จจึงต้องมีทางระบายน้ำก่อนเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังที่เป็นอุปสรรคในการทำงานและการใช้รถใช้ถนนของประชาชน