สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ว่านางคริสตี โนเอม รมว.ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐ ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายมากถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ราว 6,519 ล้านบาท) และถูกใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และเป็นประโยชน์ต่อพันธมิตรทางการเมือง

ทั้งนี้ เธอเสริมว่า ทีเอสเอจะยังคงทำการคัดกรองที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยการบินพาณิชย์ต่อไป

ก่อนหน้านั้น สมาชิกพรรครีพับลิกันได้แสดงความกังวล หลังนางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐ (ดีเอ็นไอ) ปรากฏอยู่ในรายชื่อ แต่นายเบนนี ธอมป์สัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 2 รัฐมิสซิสซิปปี สังกัดพรรคเดโมแครต ยืนกรานว่าโครงการนี้ “ไม่มีเป้าหมายทางการเมือง” และจะทำให้สหรัฐปลอดภัย ส่วนการที่แกบบาร์ดปรากฏอยู่ในรายชื่อนั้น “เป็นไปโดยอัตโนมัติและสมควรแล้ว”

อนึ่ง “โครงการท้องฟ้าที่เงียบสงบ” กำหนดให้ผู้มีรายชื่อต้องผ่านกระบวนการคัดกรองที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงการตรวจค้นร่างกาย การตรวจจับร่องรอยวัตถุระเบิด และการตรวจค้นทรัพย์สิน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และรองเท้าของผู้โดยสาร

อย่างไรก็ตาม รายงานของผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อปี 2563 ชี้ว่า ทีเอสเอไม่ปรับปรุงประสิทธิภาพของโครงการ ส่งผลให้ซอฟต์แวร์ของระบบขัดข้อง จนทำให้ผู้โดยสารไม่ถูกลบออกจากรายชื่อเฝ้าระวัง ขณะเดียวกัน สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน (เอซีแอลยู) เคยวิจารณ์โครงการนี้เมื่อปี 2561 ว่าเป็นการ “เฝ้าติดตามผู้บริสุทธิ์อย่างลับ ๆ”.

เครดิตภาพ : AFP