หนูน้อยเอลเลียนา เจ. เพย์ตัน เกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ที่โรงพยาบาลเด็กเนชั่นไวด์ ชิลเดรน เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ และถูกส่งเข้าแผนกอภิบาลทารกแรกเกิดภาวะวิกฤติ เนื่องจากเธอเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ

เด็กหญิงเกิดมาพร้อมกับห้องหัวใจด้านซ้ายที่เล็กกว่าปกติเล็กน้อย เอลเลียนาจึงได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

แม่และพ่อของเธอ แมคเคนซีและไทเลอร์ เพย์ตัน รู้สึกดีใจมากที่รู้ข่าวว่าลูกสาวตัวน้อยของพวกเขา จะได้กลับบ้านในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 แต่เพียงสามวันหลังจากได้ข่าว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

“พยาบาลที่โรงพยาบาลเอาสายอุปกรณ์ที่ติดอยู่กับตัวลูกสาวของฉันใส่กระเป๋า แล้วลืมว่าตัวเองมีสายอุปกรณ์อยู่ในกระเป๋า ก็เลยลากเอาลูกสาวของฉันตกจากเตียงเด็กตอนที่เธอเดินออกไป” แมคเคนซี โพสต์เล่าเหตุการณ์บนเฟซบุ๊กของเธอ

“เธอมีโอกาสรอดชีวิตเพียง 20 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว โรงพยาบาลนี้ก็ยังจะสุดชุ่ยแล้วทำเรื่องโง่ๆ กับทารกแรกเกิด” เธอเล่าต่อ

แมคเคนซีกล่าวว่า เอลเลียนาได้รับบาดเจ็บกะโหลกศีรษะแตกและมีเลือดออกอย่างรุนแรงที่ศีรษะ

“ฉันออกไปแค่ชั่วโมงเดียวเพื่อไปอาบน้ำ และได้รับโทรศัพท์ที่เลวร้ายที่สุดที่ไม่มีพ่อแม่คนใดควรได้รับ ทั้งที่พวกเขาควรจะช่วยดูแลเธอ” เธอเขียน

หลังจากต่อสู้เพื่อชีวิตมาหลายวัน เอลเลียนาก็สิ้นใจอย่างน่าเศร้าในวันที่ 31 มีนาคม 2568 นับได้เพียง 27 วัน หลังจากที่เธอเกิด

รายงานผลชันสูตรศพจากสำนักข่าวแมคแคลตชีย์ นิวส์ ระบุว่า อาการบาดเจ็บที่ทำให้หนูน้อยถึงแก่ชีวิต เกิดจากการตกจากเตียง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของเอลเลียนา อย่างเป็นทางการถูกระบุว่า เป็น “โรคกล้ามเนื้อหัวใจชนิดห้องหัวใจขยายใหญ่ผิดปกติแต่กำเนิด ร่วมด้วยอาการบาดเจ็บที่ศีรษะจากแรงกระแทก” โดยในรายงานระบุว่าเป็นการเสียชีวิตโดย ‘อุบัติเหตุ’ 

“ฉันโกรธคนทั้งโลกตั้งแต่วันที่ฉันเดินออกจากโรงพยาบาลโดยไม่มีลูกของฉัน” แมคเคนซีเขียนข้อความเผยความรู้สึกบนโซเชียลมีเดีย ลูกสาวผู้ล่วงลับของเธอถูกบรรยายว่าเป็นทารกที่มี “รอยยิ้มที่น่ารักที่สุดที่สามารถทำให้ห้องสว่างไสวได้”

งานศพของเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา ตามด้วยการทำพิธี “ฌาปนกิจอย่างสมเกียรติ”

“เอลลี่ แม่คิดถึงลูกมาก แม่เพิ่งนั่งในห้องของลูกและร้องไห้ เตียงของลูกว่างเปล่า คาร์ซีทของลูกก็ว่างเปล่าตอนกลับบ้าน นี่มันไม่จริงเลย” แมคเคนซีกล่าวในอีกโพสต์ “แม่แค่อยากให้ลูกกลับมา”

ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า พ่อแม่ของเด็กหญิงมีแผนที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายกับโรงพยาบาลหรือไม่ ขณะที่โฆษกของโรงพยาบาลปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น โดยอ้างว่าไม่สามารถให้ข้อมูลใด ๆ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย

ที่มา : dailymail.co.uk

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES