จากกรณี ช่วงค่ำวันที่ 6 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ร้าน “เทพประทานพร” ซึ่งเป็นร้านยางรถยนต์ชื่อดังพื้นที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มคนงานในร้าน ช่วยกันลำเลียงยางรถยนต์ประมาณ 2,000 เส้น ขึ้นไปไว้ยังท้ายรถพ่วง เพื่อนำไปส่งยัง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อสนับสนุนหน่วยงานทหารแนวหน้า หลังเกิดสถานการณ์ในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น


เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.วันเพ็ญ จันทร์สวย อายุ 38 ปี เจ้าของร้านว่า ตนติดตามสถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชามาโดยตลอด จน 2-3 วัน ที่ผ่านมา เห็นมีการขนยางรถยนต์ใช้แล้วส่งต่อให้ทหาร ตนมีพรรคพวกอยู่แถว จ.อุบลราชธานี จึงติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหารโดยตรง และทราบว่าต้องการยางเป็นจำนวนมาก เพื่อไปทำบังเกอร์ โดยจะมีรถวิ่งจากอุบลราชธานีมาขนยางที่ร้าน ซึ่งต้องรอคิว ใช้เวลาประมาณสองถึงสามวัน ตนเห็นว่าระยะเวลาดังกล่าวอาจจะช้าไม่ทันการ จึงว่าจ้างรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ในราคา 15,000 บาท ขนยางที่ร้านของตน นำไปส่งให้เจ้าหน้าที่ทหาร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี


ปรากฏว่า พอลูกน้องในร้านรู้เรื่อง ต่างพากันระดมกำลังช่วยกันขนยางรถยนต์เก่าประมาณ 2,000 เส้น ขึ้นไปยังท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ซึ่งหากนำไปขาย จะมีมูลค่ามากกว่า 1 แสนบาท ซึ่งตนยินดีมอบให้ทางทหารนำไปใช้ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางทหารแจ้งกลับมาว่า ยังขาดยางอีกจำนวนหนึ่งในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ตนจึงประสานไปยังร้านยางสาขาอื่นและร้านยางต่าง ๆ รวมกันอีกกว่า 1,000 เส้น ทั้งยังรวบรวมน้ำดื่มและอาหารแห้ง เพื่อส่งมอบให้ทหารแนวหน้า


“…อยากให้คนไทยรักและช่วยเหลือกัน นาทีนี้เราต้องช่วยกัน เพื่อบ้านเมือง ประเทศชาติ เราเป็นภาคประชาชน หากอะไรที่พอช่วยเหลือได้ เรายินดีสนับสนุนแนวหน้า ที่ต้องเสียสละอยู่ตามเขตชายแดน เปรียบเสมือนเรามีครอบครัว ถ้าครอบครัวเราเข้มแข็งและอบอุ่น ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปไปได้ ขอฝากเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทหารทุกคน ปกป้องประเทศชาติของเราให้ถึงที่สุด…” น.ส.วันเพ็ญ กล่าว.

