สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ว่านายอิกอร์ เทเรคอฟ นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน กล่าวว่า กองทัพรัสเซียส่งอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) 48 ลำ ขีปนาวุธและระเบิดอีกหลายลูก โจมตีเมืองคาร์คิฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 60 คน
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ ยืนยันการโจมตีดังกล่าว ซึ่งเป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาไม่กี่วัน เพื่อเป็นการตอบโต้ “การก่อการร้ายโดยรัฐบาลเคียฟ” ที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐาน และฐานทัพหลายแห่งของรัสเซีย เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
Russia unleashed a massive overnight assault on Kharkiv, Ukraine's second-largest city, in what has been described as the most powerful attack there since the start of the war in 2022. pic.twitter.com/TMGyV6haD0
— Radio Free Europe/Radio Liberty (@RFERL) June 7, 2025
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า สถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนมีแนวโน้มบานปลาย ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลเคียฟเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตี โดยเฉพาะปฏิบัติการ “ใยแมงมุม” ซึ่งเป็นการส่งฝูงโดรน 117 ลำ โจมตีฐานทัพอากาศรัสเซีย 4 แห่ง ในพื้นที่ห่างไกลจากรัสเซีย ซึ่งถือเป็นการที่ยูเครนสามารถโจมตีรัสเซียในระยะไกลที่สุด นับตั้งแต่สงครามปะทุเมื่อนานกว่า 3 ปีที่แล้ว และสร้างความเสียหายให้กับเครื่องบินรบของรัสเซียไม่ต่ำกว่า 40 ลำ
ผู้นำสหรัฐวิจารณ์ว่า การโจมตีครั้งนั้นของยูเครน “ยิ่งเป็นการเพิ่มความชอบธรรม” ให้กับรัฐบาลมอสโก ในการยกระดับมาตรการตอบโต้ทางทหาร
ส่วนนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวถึงสงครามกับยูเครนซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี ว่า “เป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่” เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “ผลประโยชน์ ความปลอดภัย และอนาคตของชาติ โดยเฉพาะกับคนรุ่นหลัง” จากการที่ทรัมป์เคยกล่าวว่า สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน “เหมือนเด็กทะเลาะกัน”.
เครดิตภาพ : AFP