สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮาราเร ประเทศซิมบับเว เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่ารัฐบาลซิมบับเวออกแถลงการณ์ ว่านับตั้งแต่ปี 2570 ซิมบับเวจะไม่ส่งออกลิเทียมเข้มข้นอีกต่อไป เพื่อกระตุ้นให้มีการแปรรูปและกลั่นแร่ภายในประเทศ ให้สามารถส่งออกได้ในรูปแบบที่มีมูลค่าสูงกว่า
ปัจจุบัน บริษัทท้องถิ่นสองแห่งของซิมบับเว อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโรงงานกลั่นแร่ลิเทียมภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ศูนย์ธรรมาภิบาลทรัพยากรธรรมชาติในกรุงฮาราเร ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยและรณรงค์ มองว่า พยายามของรัฐบาลในการเพิ่มรายได้จากแร่ลิเทียม “สายเกินไปและไม่เพียงพอ” เมื่อพิจารณาจากความเร็วในการขุดแร่ และความผันผวนของราคาลิเทียมในตลาดโลก
New changes to Zimbabwe’s lithium and chrome policies:
— newZWire (@newswireZW) June 10, 2025
In 2022, Zimbabwe banned the export of unprocessed lithium ore. Since then, only lithium concentrates—produced by new processing plants such as Prospect Lithium and Bikita Minerals—have been permitted for export.
The Govt… pic.twitter.com/StMJkkKCog
ขณะเดียวกัน กว่าจะถึงเวลาที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ อาจมีการส่งออกลิเทียมไปแล้วหลายล้านตัน ซึ่งมีแต่ทำให้ทุนต่างชาติร่ำรวยขึ้น แต่โอกาสของซิมบับเว สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนกลับลดลง แม้ภาครัฐห้ามการส่งออกลิเทียมดิบ ตั้งแต่ปี 2565 ก็ตาม
ปัจจุบัน ซิมบับเวเป็นประเทศซึ่งมีแหล่งลิเทียมขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา และส่วนใหญ่ส่งออกไปยังจีน ซิมบับเวจึงยังถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญในอุตสาหกรรมแร่ธาตุโลก เนื่องจากมีแหล่งแร่ที่จำเป็นต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES