สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากเมืองเบงกาลูรู ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ว่า หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสอง ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อมากขึ้นและรุนแรงมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตา ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศอินเดีย แต่ขณะนี้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ของประเทศ ลดลงมาเหลือ1 ใน 10 จากช่วงที่เคยพบผู้ป่วยติดเชื้อสูงสุดรายวันในช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญก็เตือนว่าการแพร่ระบาดระลอกสามนั้นอยู่ไม่ไกล หากมีการผ่อนคลายกฎระเบียบเรื่องการเดินทางเคลื่อนย้ายในพื้นที่หลายส่วนของประเทศ

โดยสมาคมแพทยศาสตร์อินเดีย หน่วยงานระดับสูงด้านการแพทย์ของอินเดีย ออกแถลงการณ์ว่า ขอให้รัฐต่างๆ และประชาชนของอินเดีย อย่าการ์ดตกกับการป้องกันไวรัสโควิด-19 เพราะการระบาดระลอกสามเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้เจ็บปวดที่ต้องแจ้งในช่วงเวลาสำคัญว่ามีหลายภาคส่วนของประเทศ ทั้งรัฐบาลและประชาชนต่างรู้สึกพอใจที่ได้ออกมารวมกลุ่มจำนวนมาก โดยไม่สนใจมาตรการป้องกันตามมาตรการควบคุมโรคเพื่อป้องกันโควิด-19 การเดินทางท่องเที่ยวก็สำคัญ การเดินทางแสวงบุญและความศรัทธาต่อศาสนาอย่างแรงกล้าก็จำเป็น แต่ขอให้รอไปอีกสักสองสามเดือนจะได้หรือไม่ ซึ่งการเปิดให้มีการประกอบพิธีกรรมและทำให้คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจำนวนมากมารวมกัน อาจทำให้เกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์หรือผู้ที่แพร่เชื้อออกเป็นวงกว้าง

ถ้อยแถลงดังกล่าวของสมาคมแพทยศาสตร์อินเดีย ทำให้เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลอินเดียต้องออกมาขานรับและบอกกล่าวไปถึงประชาชน ขอให้หลีกเลี่ยงสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเตือนว่าการระบาดระลอกสองยังไม่จบสิ้น

กระทรวงสาธารณสุขอินเดีย รายงานว่าตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 37,154 ราย และเสียชีวิต 724 ศพ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แทบกับช่วงระบาดรุนแรงพบติดเชื้อวันละกว่า 4 แสนรายในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ผู้เสียชีวิตรวมนั้นเกิน 408,000 ศพ สูงสุดเป็นอันดับสามของโลก ส่วนการจัดฉีดวัคซีนก็เป็นไปอย่างล่าช้า ฉีดไปได้ 8% เท่านั้นของประชากร 950 ล้านคน ซึ่งได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม

เครดิตภาพ REUTERS