ถ้าไม่พูดเรื่องการชุมนุม ช่วงนี้การเมืองก็ถือว่าคึกคัก อาจเรียกได้ว่า เพราะเข้าช่วงเวลาปีถึงปีครึ่งสุดท้ายของรัฐบาล (ถ้าออกตามวาระ) แต่ละพรรคก็ต้องเริ่มเคลื่อนไหวโยนหินถามทางเกี่ยวกับตัวผู้สมัครและเรื่องนโยบายพรรคกันแล้ว พรรคที่ออกจะเคลื่อนคึกคักที่สุดดูจะเป็นประชาธิปัตย์ ที่หวัง “ล้างตา” ทวงคืนเก้าอี้ ส.ส.ใต้กับ กทม.

พรรคโชว์สีสันเรื่อง “เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ” เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.เป็นระยะ ใน กทม.คนที่มีสีสันก็เช่น นายพันธุ์พิสุทธิ์ นุราช หรือกัปตันไมเคิล นักบินอายุน้อยที่เป็นเจ้าของโรงเรียนการบิน จะลงเขตบึงกุ่ม ที่ใต้ก็เปิดตัวนายเมธี อรุณ นักร้องดังวงลาบานูน ลงสมัคร ส.ส.นราธิวาส ซึ่งมีนโยบายจะเอาความบันเทิงมาใช้กับการเมือง

นโยบายเด่นของพรรคที่จะชู ก็น่าจะเป็นเรื่องการประกันราคาสินค้าเกษตร เนื่องจากเป็นนโยบายที่หาคะแนนเสียงได้ง่าย ในประเทศไทยมีเกษตรกรเป็นจำนวนมาก ของที่หามาเป็นจุดขายจึงเป็นเรื่องปากท้องเป็นหลัก ในขณะที่เรื่องสิทธิมนุษยชนที่ม็อบเรียกร้องการแก้ ม.112 พรรคประกาศว่าไม่ได้มีนโยบาย ก็ไม่รู้จะเสียคะแนนหรือไม่

ข้างฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ตื่นตัวเป็นพิเศษในการลงพื้นที่ ร.อ.ธรรมนัส ปรับภาพลักษณ์เป็นพวก “ใจถึง พึ่งได้” ไปติดตามคดีเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัวที่เด็กถูกทำร้าย ข่าวประเภทนี้คนมักจะสนใจเพราะเอาใจช่วยเด็ก อยากให้ผู้กระทำถูกลงโทษ

เรียกว่า “ถึงถูกปรับออกจาก ครม.ก็หาซีนได้” และดูท่าทางเจ้าตัวจะพอใจอีกด้วยที่เป็น ส.ส.อย่างเดียว ไปจับงานหลากหลายได้ ซึ่งบทบาทใจถึง พึ่งได้ ของ ร.อ.ธรรมนัส นี้ไม่รู้ว่าถ้า พปชร.ได้กลับมาหลังเลือกตั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. จะต้องตบรางวัลเก้าอี้อะไรให้หรือไม่

ในพรรค พปชร.นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจคือกระแสข่าวการที่ “ส.ส.ไม่ค่อยเอานายกฯ” เนื่องจากเข้าถึงได้ลำบาก (เป็นบทเรียนของการเขียนรัฐธรรมนูญให้มีนายกฯ คนนอกที่ไม่ใช่ ส.ส.) จนทำให้พี่ใหญ่ คสช.ต้องเคลียร์ใจ จัดงานเลี้ยงให้พรรคร่วมรัฐบาลในช่วงปลายเดือนนี้ แล้วเชิญทั้งนายกฯ ทั้ง “ป.ป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 มาร่วม

ท่าทีที่น่าสนใจคือ “ในงานดังกล่าว บิ๊กป้อมจะประกาศให้บิ๊กตู่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ในนามพรรคคนเดียวหรือไม่” ในภาวะที่ศึกนอกศึกในเยอะเช่นนี้ นอกพรรค กระแสการไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็มาก มีไปจนถึงการแสดงความเห็นแบบด้อยค่าท่านผู้นำกันเลยทีเดียว

ในพรรคอีกก็มีข่าวเกี่ยวกับการที่ ส.ส.ไม่ค่อยแฮปปี้กับการที่นายกฯ เข้าถึงตัวยาก จนนายกฯ เองก็บอกว่าจะปรับตัว..พูดตั้งแต่ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่รู้ว่าวันนี้กระแสในพรรคเป็นอย่างไร ยังจะชู “บิ๊กตู่” เป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ หรือหวังลุ้น “อุบัติเหตุทางการเมืองให้ไปเสียเองเพราะดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีตามรัฐธรรมนูญ

หรือไม่แน่..อาจต้องมีแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคคนใหม่ที่ฟังเสียงในพรรคมากขึ้น โดยเฉพาะ “ฟัง” เสียงของเลขาธิการและหัวหน้าพรรค ตอนนี้น่าสนใจว่า “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา จะมาเป็นคนนั้นหรือไม่ เพราะอยู่ๆ บิ๊กแป๊ะซึ่งหมายมั่นปั้นมือจะลงผู้ว่าฯ กทม.ก็ถอนตัวออกไปไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น

แต่ยังมีการเคลื่อนไหวทำงานสังคม จนมีกลิ่นว่าน่าจะมาเล่นการเมืองระดับชาติรอบที่จะถึง และคงเลือกอยู่กับ พปชร.จากการเปิดตัวไปตรวจน้ำท่วมกับ “บิ๊กป้อม” ที่สกลนคร วันที่ 13 พ.ย.เป็นคณะทำงานรองนายกฯ ..เร็วๆ นี้ เราอาจได้เห็นกระบวนการเปิดตัวแบบ “โยนหินถามทาง” แคนดิเดตนายกฯ ของ พปชร.เพิ่มขึ้น

ถ้าบิ๊กแป๊ะ “สมผลประโยชน์” กับคนในพรรคได้มากกว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ.