นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ปัญหาความแออัดในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง กำลังสร้างความเสียหายมูลค่าทางเศรษฐกิจใหญ่เกินกว่ารัฐบาลจะเพิกเฉยปล่อยให้ภาคเอกชนรับผิดชอบกันเอง เนื่องจากการแก้ปัญหาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เกิดเป็นรูปธรรม บางช่วงเวลารถขนส่งตู้คอนเทเนอร์ใช้เวลาในท่าเรือแหลมฉบังต่อเที่ยวสูงสุดถึง 20 ชั่วโมง ส่งผลให้สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย แจ้งเรียกเก็บค่าจอดรอคอยกรณีรถติดในท่าเรือแหลมฉบัง เพิ่มจากค่าขนส่งปกติอีกเที่ยวละ 3,000-5,000 บาท กรณีจอดรอคอยเกินกว่า 3 ชั่วโมงต่อครั้งต่อเที่ยว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 68

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาปริมาณตู้คอนเทเนอร์บรรจุสินค้าหนัก และตู้คอนเทเนอร์เปล่า ซึ่งขนถ่ายผ่านท่าเรือแหลมฉบังในปี 67 จำนวน 9.55 ล้านทีอียู อาจก่อให้เกิดภาระต้นทุนเพิ่มเติมแก่ผู้ส่งออกและผู้นำเข้าระหว่าง 12,000-20,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาลมาก เนื่องจากไม่เพียงแต่จะทำให้สินค้าส่งออกของไทยแข่งขันด้านราคาได้ยากยิ่งขึ้น แต่จะส่งผลให้ประชาชนไทย ในฐานะผู้บริโภคต้องรับภาระค่าขนส่งผ่านราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้นจากต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผลกระทบทางอ้อมที่เกิดจากปัญหามลพิษฝุ่นควัน (พีเอ็ม 2.5) จากการปล่อยของเสียรถบรรทุกที่จอดคอยในท่าเรือเป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่เป็นวงกว้าง

อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการขอเสนอให้เร่งดำเนินการ 4 ด้าน คือ  ด้านการขับเคลื่อนระดับนโยบาย เช่น จัดตั้ง คณะกรรมการระดับนโยบาย เร่งจัดทำมาสเตอร์ แพลน ปรับปรุงอัตราค่าภาระท่าเรือ เพื่อลดต้นทุนผู้ใช้บริการท่าเรือ, ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เร่งพัฒนาลานวางตู้กลาง เพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรางและทางน้ำเข้าออกท่าเรือ ขุดลอกร่องน้ำทางเดินเรือ และแอ่งจอดเรือ เพิ่มการลงทุนในเครื่องมือยกขนตู้สินค้า, ด้านกระบวนการทำงานและเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น เร่งรัดให้รถทุกคันต้องจองคิวก่อนเข้าท่าเรือ เร่งรัดพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับทุกระบบการทำงานแบบเรียลไทม์  และด้านกฎหมายและกฎระเบียบ เช่น ให้ด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจปล่อยสินค้า ปฏิบัติงานตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง และขอให้ปรับปรุงสัญญาสัมปทานท่าเทียบเรือและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง

“การแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน รัฐบาล และการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำเป็นต้องจัดหาพื้นที่ในเขตท่าเรือแหลมฉบังให้ผู้ประกอบการท่าเรือคอนเทเนอร์สามารถเช่าใช้กองเก็บตู้คอนเทเนอร์ได้อย่างเพียงพอ และในอัตราค่าเช่าที่ต่ำที่สุดที่เป็นไปได้ เพื่อลดปัญหาความแออัดในท่าเทียบเรือในทันที พร้อมทั้งเร่งดำเนินมาตรการทั้งระยะสั้น กลาง ยาว ตามข้อเสนอแต่ละด้านอย่างจริงจังต่อไป”