เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 6/2568 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร หัวหน้าหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร

ที่ประชุมได้รายงานเรื่องการติดตั้งระบบสัญญาณไฟจราจรอัจฉริยะว่า ได้มีการเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจรทางแยกจากแบบ Fix Time เป็นแบบ Adaptive โดยอัปเกรดเซ็นเซอร์ตรวจจับสภาพการจราจรด้วยกล้อง Image Processing และอัปเกรดซอฟต์แวร์ประมวลผลปรับจังหวะสัญญาณไฟที่ทางแยกให้มีความรวดเร็วและฉลาดขึ้น ทำให้สามารถตรวจนับปริมาณจราจรแต่ละทิศทาง ตัดไฟเมื่อไม่มีรถเข้าทางแยก ตรวจจับสภาพการจราจรด้วยการวัดค่า Delay ของทางแยก ป้องกันการเกิดรถติดสะสมเกินทางแยก

ซึ่งในปี 67 ได้ดำเนินการติดตั้งระบบสัญญาณไฟจราจรทางแยก แบบ Adaptive จำนวน 72 ทางแยก โดยติดตั้งแล้วเสร็จทั้งหมดในเดือน มี.ค. 68 และเปิดใช้ระบบสัญญาณไฟจราจรทางแยกแบบ Adaptive โดยดำเนินการบริเวณทางแยกของถนนสำคัญในพื้นที่ชั้นในของ กทม. ที่ปัญหาการจราจร อาทิ ในแนวถนนพระราม 9 ถนนดินแดง ถนนพญาไท ถนนสุขุมวิท ถนนเพลินจิต ถนนพระรามที่ 1 ถนนพระรามที่ 4 ถนนสาทร ถนนสีลม ถนนสุรวงศ์ ถนนสี่พระยา และถนนพหลโยธิน
ทั้งนี้ ระบบสัญญาณไฟจราจร แบบ Adaptive ที่ดําเนินการข้างต้นนี้ สามารถลดความล่าช้า (Delay) เฉลี่ยในการเดินทางบริเวณทางแยกที่มีสัญญาณไฟจราจรลงได้ร้อยละ 10-41 เมื่อเทียบกับระบบสัญญาณไฟจราจรแบบเดิม (Fix Time)

ขณะที่ความคืบหน้าการดำเนินการโครงการห้องเรียนปลอดฝุ่นของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนกรุงเทพมหานคร (ศพด.) จำนวน 151 ศูนย์นั้น ปัจจุบัน ศพด. ได้รายงานความก้าวหน้าของโครงการในระบบแล้ว จำนวน 137 ศูนย์ ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการเขียนโครงการ และมีความก้าวหน้าเป็นไปตามลำดับ ทั้งนี้ ศพด. ชุมชนซอยสมหวัง เขตบึงกุ่ม ที่ดำเนินโครงการนำร่องแล้วเสร็จ โดยมีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศและจัดกิจกรรมให้ความรู้ แนวทางการปฏิบัติตนตามมาตรการการป้องกันฝุ่น PM 2.5 ตามโครงการปลอดฝุ่น ปอดสะอาด หนูน้อยสุขภาพดี
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ อยากให้เร่งรัดโครงการเพื่อไม่ให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็กเล็กเสียโอกาส เพราะเป็นโครงการที่ดีและเห็นผลระยะยาว ไม่ใช่ทำแล้วหายไป

นอกจากนี้ในที่ประชุม สำนักการโยธา ได้รายงานสาเหตุของไฟฟ้าดับริมถนนในพื้นที่ คิดเป็นอุปกรณ์ชำรุดร้อยละ 50 รองลงมาคือ สายไฟถูกขโมย ร้อยละ 35 ความชื้น ร้อยละ 10 สาย Main ขาดร้อยละ 4 และภัยธรรมชาติ ร้อยละ 1 แบ่งเป็นทรัพย์สินของ กทม. ร้อยละ 80 การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ร้อยละ 10 และอีกร้อยละ 10 เป็นของหน่วยงานอื่น ๆ
ด้านสถิติแจ้งความดำเนินคดีการถูกลักขโมย ปี 66 จำนวน 13 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 16,343,085 บาท ปี 67 จำนวน 21 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 9,218,188 บาท ปี 68 จำนวน 12 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 12,725,533.86 บาท รวมระยะทาง 23,809 เมตร รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 40 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ สำนักการโยธา ได้จัดทำแนวทางแก้ปัญหาสายไฟถูกลักขโมย มีมาตรการระยะสั้นเร่งด่วน ด้วยวิธีพาดสายอากาศตามถนนที่พบปัญหาการลักขโมยสายไฟ จำนวน 21 เส้นทาง แก้ไขแล้ว 16 เส้นทาง เช่น ถนนพหลโยธิน ถนนเทิดดำริ ถนนสุขุมวิท ถนนคุ้มเกล้า ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ถนนเทพรักษ์ ถนนสิรินธร Skywalk บางกะปิ เป็นต้น
ส่วนแนวทางป้องกันการลักลอบขโมยสายไฟฟ้า เช่น การกำหนดรูปแบบชุดปฏิบัติงานให้ชัดเจนเพื่อง่ายต่อการสังเกต กำหนดรูปแบบสติกเกอร์สำหรับรถปฏิบัติงานซ่อมแซมไฟฟ้าเร่งด่วน การออกแบบและเลือกวัสดุแข็งแรงป้องกันการตัดและงัดแงะ รวมถึงการติดตั้งระบบ IoT ในตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าแสงสว่าง การติด QR Code ที่เสาไฟฟ้าเพื่อสแกนแจ้งเหตุไฟฟ้าดับ ติดตั้ง CCTV ในจุดเสี่ยง จุดล่อแหลม พร้อมบูรณาการจากทุกภาคส่วน ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง สถานีตำรวจนครบาล วิศวกรรมสถาน กรมการปกครอง และภาคประชาชน ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กทม. เปลี่ยนหลอดไฟและติดตั้งหลอด LED ไปแล้วกว่า 85,000 ดวง ด้านไฟฟ้าแสงสว่างริมคลองในพื้นที่ กทม. มีทั้งหมด 17,371 ดวง แบ่งเป็น สำนักงานเขต 50 เขต จำนวน 14,989 ดวง ใช้งานได้ 14,924 ดวง และอยู่ในการดูแลของสำนักการระบายน้ำ จำนวน 2,179 ดวง ใช้งานได้ จำนวน 2,063 ดวง
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เรื่องโจรลักขโมยสายไฟ ถือเป็นปัญหาใหญ่ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ ถือเป็นวาระแห่งเมืองที่ต้องเอาจริงเอาจัง ทุกเขตต้องไปสำรวจในพื้นที่ว่าในเขตตนเองมีร้านรับซื้อขายของเก่าทั้งหมดกี่ร้าน พร้อมขอความร่วมมือและแจ้งให้ทราบถึงมาตรการหากรับซื้อของโจร และเน้นย้ำทุกเขตต้องร่วมมือร่วมใจกัน ต้องหาประชาชนเป็นแนวร่วม เพราะเรื่องนี้สร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาล

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเสริมว่า ให้สำนักงานเขตตรวจสอบว่าร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่มีใบอนุญาตหรือไม่ สำหรับร้านที่มีใบอนุญาต ให้ดำเนินการตามระเบียบของกรมการปกครอง และที่กรุงเทพมหานครมีการกำหนดเพิ่มเติมเข้าไป คือ สายไฟ หรือวัสดุที่เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นของรัฐ เช่น ฝาบ่อ โดยให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และหากมีสิ่งของต้องสงสัยว่าเป็นของทางราชการ ให้ร้านรับซื้อของเก่าแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีที่พบใครลักขโมยสายไฟให้แจ้ง 191 ทันที.