เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามรายละเอียดกรณีพยาบาลถูกทำร้ายร่างกาย โดยพบกับ นพ.สกล สุขพรหม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า และ นพ.ปริพนท์ จุลเจิม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ที่ได้ออกมาแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์ความรุนแรงต่อบุคลากรทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 14.00 น. บริเวณหน้าเคาน์เตอร์พยาบาล ชั้น 6 หอผู้ป่วยศัลยกรรมอุบัติเหตุ

จากการตรวจสอบในพื้นที่เกิดเหตุพบว่า นายชนวีร์ อายุ 21 ปี ผู้ป่วยที่ถูกส่งตัวมารักษาอาการบาดเจ็บจากการประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชน จากโรงพยาบาลบางบัวทอง ขณะที่นายชนวีร์ กำลังนอนรอรับการรักษาอยู่ที่เตียงหมายเลข 23 นั้น น.ส.พลอย (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี พยาบาลวิชาชีพ ได้ยืนคุยโทรศัพท์กับญาติของนายชนวีร์ อยู่ที่หน้าห้องพยาบาล อยู่ๆ นายชนวีร์ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง วิ่งลงจากเตียงและชกเข้าที่ใบหน้าของพยาบาลหญิงอย่างเต็มแรง 1 ครั้ง ทำให้พยาบาลหญิงล้มลงไปกองกับพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด เจ้าหน้าที่และญาติของคนก่อเหตุได้เข้าช่วยกันห้ามปราม ก่อนที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะแจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ
น.ส.อนุสรา ธรรมะวิธีกุล พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนไข้ที่รับย้ายมาจากหอผู้ป่วยไอซียูวิกฤต เมื่อมาถึงหอผู้ป่วยที่เกิดเหตุ คนไข้รู้สึกตัวดี แต่เริ่มมีอาการอาละวาด เอะอะโวยวายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และไม่ยอมให้พยาบาลแตะเนื้อต้องตัว จึงแจ้งให้ญาติของคนก่อเหตุเข้ามาดูแล โดยพี่พยาบาลคนเจ็บ ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกับคนก่อเหตุเลย กระทั่งพี่พยาบาลคนเจ็บได้ออกมายืนคุยโทรศัพท์กับพ่อของผู้ก่อเหตุที่หน้าห้องพยาบาล ซึ่งขณะนั้นตนก็ยืนอยู่ใกล้ๆ นายชนวีร์ ได้วิ่งเข้ามาชกพี่พยาบาลคนเจ็บจนล้มลงกับพื้น ทำให้ใบหน้าข้างขวาบวม มีเลือดออกทางจมูก และปากฉีก ญาติของผู้ก่อเหตุได้เข้าช่วยจับตัวไว้ ส่วนเพื่อนพยาบาลคนอื่นๆ ได้เข้าช่วยเหลือพี่พยาบาลที่บาดเจ็บส่งแผนกฉุกเฉิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พยาบาลทุกคนรู้สึกหดหู่และเสียขวัญอย่างมาก พร้อมฝากบอกว่าพยาบาลมีหน้าที่ดูแลคนไข้ แต่ญาติก็ต้องให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลที่แท้จริงของคนไข้กับพยาบาลด้วย

นพ.ปริพนท์ จุลเจิม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายนี้ ซึ่งเป็นเคสวิกฤตที่รับต่อมาจากโรงพยาบาลบางบัวทอง และมีอาการดีขึ้นจนย้ายไปพักที่หอผู้ป่วย แต่กลับมีอาการคลุ้มคลั่งและก่อเหตุทำร้ายพยาบาล ตนขอย้ำว่า สถานพยาบาลเป็นสถานที่ดูแลคนเจ็บไม่ใช่สมรภูมิรบ ไม่ควรมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นภายในสถานที่แบบนี้
นพ.สกล สุขพรหม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า สาเหตุที่ออกแถลงการณ์เนื่องจากการเกิดเหตุความรุนแรงในโรงพยาบาลเป็นเรื่องไม่เหมาะสม จึงอยากให้สังคมรับรู้เพื่อตระหนักว่าการใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาลเป็นการสร้างความไม่ปลอดภัยทั้งต่อผู้ให้บริการและผู้รับบริการ โดยปกติโรงพยาบาลมีระบบความปลอดภัย เช่น เจ้าหน้าที่ รปภ. และกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องขอความร่วมมือจากญาติผู้ป่วยด้วยในกรณีที่ผู้ป่วยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือใช้ความรุนแรง

น.ส.พลอย พยาบาลวิชาชีพผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรง เล่าเพิ่มเติมว่า ผู้ก่อเหตุย้ายมาที่ตึกที่ตนทำงานอยู่ได้ประมาณ 5 นาที ตนอยู่ที่เคาน์เตอร์ และเดินไปจดปัสสาวะตามเตียง โดยไม่ได้คุยกับคนไข้ที่ก่อเหตุ หลังจากนั้นตนเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์ ระหว่างที่พยาบาลกำลังคุยกับแฟนคนไข้เรื่องพฤติกรรมรุนแรงของผู้ป่วย และตนขอเข้ามาคุยกับแม่คนไข้เอง จู่ๆ นายชนวีร์ก็วิ่งมาชกตนที่ใบหน้าจนล้ม และมีพยาบาลคนอื่นเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ มีเลือดออกเต็มใบหน้า
พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าว่ามีผู้ป่วยอาละวาดทำร้ายร่างกายพยาบาล จึงรีบรุดไประงับเหตุ เมื่อไปถึงได้ควบคุมตัวนายชนวีร์ อายุ 21 ปี มาดำเนินคดีในข้อหา ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาของวันนี้ (12 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ก่อเหตุไปส่งฝากขัง ศาลจังหวัดนนทบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว.
