เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 13 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดความชุลมุนที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เนื่องมาจากทางฝั่งกัมพูชา ปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง อ.กรอมเรียง จ.พระตะบอง ส่งผลให้รถบรรทุกสินค้า ที่เข้ามาซื้อสินค้ายังฝั่งประเทศไทย ข้ามกลับไปไม่ได้ จำนวนหลายร้อยคัน
ขณะชาวกัมพูชารายหนึ่ง ที่เดินเท้าข้ามแดนมาทำงาน เผยว่า เมื่อทราบข่าวว่าทางฝั่งกัมพูชาปิดประตูประเทศ ตนเองรีบเดินเท้าข้ามกลับประเทศ แต่ประตูด่านที่เปิดให้ประชาชนเดินข้าม ก็ถูกปิดเช่นเดียวกัน
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ทหารกัมพูชาได้ยืนอยู่ที่หน้าประตู รถที่เคยผ่านไปผ่านมาได้ ไม่สามารถข้ามผ่านได้เลย ทำให้บริเวณรอยต่อข้ามแดนไทย-กัมพูชา มีทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์บรรทุกสินค้าจอดรอเพื่อข้ามด่านกันเป็นจำนวนมาก โดยที่บนรถยังคงมีผลไม้และพืชผักที่ข้ามมาซื้อและรอนำข้ามกลับไปยังประเทศกัมพูชา ซึ่งการปิดประตูครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณหน้าด่านของประเทศไทยเองก็ไม่ทราบ ว่าทางฝั่งประเทศกัมพูชาจะมีการปิดด่าน ทางฝั่งไทยได้เปิดประตู และให้รถและคนข้ามตามปกติ
ขณะที่เวลา 11.10 น. ทางเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชาได้เปิดประตูบริเวณทางเดินคนข้าม ให้ชาวกัมพูชาที่ยืนรออยู่บนสะพานข้ามกลับไปยังประเทศของตนเอง ทั้งยังพยายามเร่งให้คนกลับประเทศตัวเองให้เร็วที่สุด และมีท่าทีว่าจะปิดประตูคนเดินข้ามอีกครั้ง ส่วนประตูสำหรับรถข้าม ยังไม่มีทีท่าว่าจะเปิดตอนไหนอย่างไร ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณหน้าด่าน บอกว่า ก่อนหน้านี้ทางด่านบ้านผักกาด ได้มีการปิดประตูด่านก่อน
จากนั้นไม่นานได้มีการเปิดให้คนข้ามกลับไป ก่อนที่ทางฝั่งด่านถาวรบ้านแหลม จะเจอการปิดด่านของฝั่งกัมพูชาเช่นเดียวกัน ตอนนี้ทางฝั่งไทยไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เนื่องจากเป็นการปิดด่านของทางฝั่งกัมพูชาเอง และไม่รู้ว่าจะมีทีท่าหรือความคืบหน้าอะไรอีก
ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี กล่าวว่า สถานการณ์ฝั่งไทย ยังเปิดด่านปกติ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนกัมพูชาจะปิดด่าน มีรถพ่วงสินค้า ผ่านเข้าไปได้กว่า 100 คัน และรถฝั่งกัมพูชาก็เข้ามารับสินค้าทางฝั่งไทยได้จำนวนมาก ขณะที่กำลังขึ้นของสินค้าต่างๆ ทางฝั่งกัมพูชาได้มีคำสั่งจากส่วนกลางให้ทำการปิดด่านในช่วงสาย ทำให้มีรถขนส่งสินค้าตกค้างหน้าด่านอยู่จำนวนมาก ซึ่งต้องรอว่าสถานการณ์ในช่วงเย็น ทางกัมพูชาจะเปิดด่านให้มีการสัญจรได้ปกติหรือไม่ ซึ่งตรงจุดนี้เป็นเรื่องที่ระดับเบื้องบนต้องพูดคุยหาทางออกด้วยกัน
นายรา ชายรา ชาวกัมพูชาที่ข้ามมาขายของที่ตลาดชายแดนบ้านแหลม บอกว่า ไม่มีสัญญาณเตือนหรือไม่มีใครแจ้งว่าจะมีการปิดด่านฝั่งกัมพูชา เมื่อช่วงเช้าตอนข้ามมาเพื่อจะมาขายของในตลาดตามปกติ แต่พอประตูฝั่งกัมพูชาปิด ได้ให้ลูกเมียเดินข้ามกลับไปก่อนแล้ว เหลือเพียงแค่ตนเองที่จะขี่รถกลับไปเท่านั้น เนื่องจากบ้านอยู่ไม่ไกลจากด่าน ยังไม่รู้ว่าถ้ากลับไม่ได้จะต้องทำอย่างไรต่อไป ส่วนเรื่องที่ฝั่งกัมพูชาตัดเน็ตไทย ตนไม่ได้กระทบเพราะใช้ซิมไทยอยู่ แต่หลังจากนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร.
