เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุผ่านสื่อว่า พร้อมเป็นฝ่ายค้านหากโดนยึดกระทรวงพลังงาน ว่า ตนจะพูดเล่นทำไม มีที่ไหน เมื่อเขาไล่ออกจะหน้าด้านนั่งอยู่ทำไม กระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ ตนได้ถามหัวหน้าพรรคเมื่อ 3-4 วันก่อน หัวหน้าบอกว่า นายกฯ ยังไม่สอบถามว่าจะให้ปรับอย่างไร เราก็ต้องอยู่เฉยๆ แต่หากเขาถามมา เราก็จะยืนยันตำแหน่งเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยน 

เมื่อถามว่า นายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่าให้พรรค รทสช. ไปจัดการปัญหาของตัวเองก่อน นายวิทยา กล่าวว่า ในพรรคจะยังยืนยันตามนี้ ไม่มีการปรับ ทั้งในส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีของเลขาธิการพรรค รวมถึงนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค รทสช.

เมื่อถามต่อว่า หากไม่มีการปรับ แต่ในพรรคแบ่งเป็นสองกลุ่ม จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า แล้วจะไปยังไงได้ ในเมื่อร่วมหัวจมท้ายแล้ว ก็รอเวลายุบสภาค่อยจากกันไป เป็นเรื่องธรรมดา ปัญหาที่เกิดในพรรคเป็นเรื่องธรรมดา หัวหน้าพรรคกับเลขาธิการพรรคต้องปวดหัวกันบ้าง ยอมรับแรงเสียดทานให้ได้ ยืนยันว่านายกฯ ยังไม่ได้ประสานมาว่าให้มีการปรับ และยังไม่มีการนัดหัวหน้าพรรคกินข้าวเพื่อพูดคุยถึงการปรับ ครม. แต่คนที่จะพูดคุยคือหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เราให้สิทธิ 2 คนนี้ในการตัดสินใจ 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีคนนอกมาเป็น รมว.พลังงาน แทนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. นายวิทยา กล่าวว่า ถ้าจะมาเป็นก็ต้องหาช่องให้ได้ ตนยังนึกไม่ออกว่าเขาจะมายังไง ตนคิดว่าเขาอยากมานั่งในตำแหน่งที่พรรคเรานั่งอยู่เท่านั้น ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งนี้ก็ไม่มีปัญหา หากรัฐบาลตัดสินใจเอาคนอื่นมาเป็นแทน ก็เท่ากับเชิญเราออกจากรัฐบาลแล้ว ซึ่งเป็นการเมืองตื้นๆ อย่าไปคิดอะไรมาก 

เมื่อถามย้ำว่าในแง่กฎหมาย มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่านายกฯ สามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อรัฐมนตรีด้วยตัวเอง ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ นายวิทยา กล่าวว่า เป็นไปได้ แต่ก็เท่ากับเขาให้เราออก เป็นการแสดงว่าไม่ต้องการพรรคเราแล้ว ถ้าจะเอาคนอื่น เราก็ต้องออก จะนั่งไปทำไม 

เมื่อถามอีกว่าล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ระบุเช่นเดียวกันว่า หากเปลี่ยนกระทรวง ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน นายวิทยา กล่าวว่า ก็ต้องเป็นอย่างนั้น แต่ตนคิดว่านายกฯ คงไม่เปลี่ยนม้ากลางศึก ตอนนี้ประเทศกำลังออกศึกกับความยากจนและกัมพูชาอยู่ ถ้าเปลี่ยนแบบนี้ ถามว่าอะไรจะเกิดขึ้น คิดได้แต่จะทำยังไง ซึ่งหากเราออก ก็ต้องเป็นฝ่ายค้านโดยปริยาย เพราะเขาไม่ให้อยู่จึงจำเป็น.