จากกรณีเกิดเหตุผู้เสียชีวิต 3 ราย ภายในโรงเห็ดฟาง ข้างบ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 13 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน ประกอบด้วย นายบุญเหลือ จันนอก อายุ 47 ปี นางสายพิณ อัคคีสำโรง อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา และ นายณัฐพล อัคคีสำโรง อายุ 27 ปี หลานชายของนางสายพิณ โดยช่วงเกิดเหตุ นายณัฐพล สลบไปจากการที่เข้าไปเปิดโรงเห็ดฟางที่อยู่ระหว่างการอบเชื้อแบบไม่ถูกวิธี จากนั้น นายบุญเหลือกับนางสายพิณ พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่กลับเสียชีวิตตามไปอีกทั้งสองคน แพทย์นิติเวชสันนิษฐานว่า สาเหตุน่าจะมาจากการขาดออกซิเจนและได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปเป็นจำนวนมากตามข่าวที่นำเสนอแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ก.ค. เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิฮุก 31 ประจำจุดอำเภอครบุรี ได้นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพ มาส่งให้กับญาติเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่วัดอัมภาผล บ้านอังโกน หมู่ที่ 2 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี โดยทั้ง 3 ศพ ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพอยู่ภายในศาลาเดียวกัน ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้องที่ทราบข่าว และพากันเดินทางมาเคารพศพกันอย่างต่อเนื่อง

จากการสอบถาม นายหวาน อัคคีสำโรง อายุ 67 ปี พ่อนางสายพิณ และเป็นตาของนางณัฐพล กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของครอบครัว ถึงแม้ว่ามาถึงตอนนี้ทุกคนพอที่จะคลายความโศกเศร้าเสียใจไปได้บ้างส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังทำใจรับกับความสูญเสียในครั้งนี้ได้ไม่ดีนัก แต่อย่างไรก็ตาม คนที่อยู่ก็ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมสู้ชีวิตต่อไป สำหรับในส่วนของหลานสาว คือ น.ส.นิชา จันนอก อายุ 18 ปี ลูกสาวคนเดียวของ นายบุญเหลือกับนางสายพิณ ครอบครัวของตนก็จะรับมาดูแลและเลี้ยงดูอย่างดีที่สุด ส่วนในเรื่องของกิจการโรงเพาะเห็ด ตนสั่งให้คนในครอบครัวอัคคีสำโรง หยุดทำกิจการนี้ทั้งหมด พร้อมกับสั่งรื้อโรงเห็ดทั้งหมด เพราะรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับกำหนดการฌาปนกิจของทั้ง 3 ศพจะทำการฌาปนกิจในวันที่ 15 ก.ค.64 ในเวลา 14.00 น. โดยจะฌาปนกิจที่วัดอัมภาผล 1 ศพ และที่วัดแชะภายในเขตเทศบาลตำบลแชะอีก 2 ศพ

ด้าน นายอุทัย หนูวุ่น เกษตรอำเภอครบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคาดว่าโรงเห็ดเกิดก๊าซพิษจากขั้นตอนในช่วงที่เรียกว่า ช่วงของการตัดใยเห็ด ซึ่งก๊าซดังกล่าวเกิดจากการนำกากมันสําปะหลังมาหมักประมาณ 3 วัน ก่อนนำ ปุ๋ยคอก ปูนขาว และบางรายผสมปุ๋ยยูเรียมาโรยเป็นชั้นในการเพาะปลูกเชื้อเห็นฟาง โดยจะเพาะในโรงเรือนปิด ควบคุมอากาศและอุณหภูมิ ฉีดน้ำอุณหภูมิและปิดโรงเรือนไว้ 3 วัน ในช่วงนี้ทำให้เกิดก๊าซต่างๆ และในโรงเรียนไม่มีออกซิเจน ในกรณีนี้คาดว่าน่าจะเข้าไปในโรงเห็ดโดยที่ไม่ได้เปิดโรงให้อากาศเสียหรือแก๊สต่างๆ ภายในโรงเห็ดออกก่อน จึงขาดอากาศหายใจ โดยทั่วไปในขั้นตอนนี้จะต้องเปิดโรงเห็ดให้อากาศภายนอกเข้าไปสลายอากาศเสียในโรงเพาะเห็ดประมาณ 3-4 ชั่วโมง ไปจนถึง 1 วัน

นายอุทัย กล่าวต่อว่า คาดว่าผู้เสียชีวิตที่เป็นหลานชายน่าจะมีประสบการณ์ไม่พอ จึงไม่ได้เปิดระบายอากาศถึง 3 ชม. ได้เข้าไปในโรงเห็ดสูดดมแก๊สพิษและขาดออกซิเจนเกิดล้มลงไป จากนั้นสามีภรรยาสองคนหลังเข้าไปช่วย ก็ทำให้ล้มไปจนเสียชีวิตทั้ง 3 ราย ดังกล่าว ทั้งนี้ในพื้นที่บ้านทรัพย์อุดม ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนที่มีการเพาะเห็ดฟางจำหน่ายมานานกว่า 20 ปี ล่าสุดมีเกษตรกรเพาะเห็ดฟางขายจำนวน 15 ครัวเรือน มีโรงเพาะเห็ดประมาณ 30 โรง