เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้มีการประชุมผ่านระบบซูมร่วมกับกับอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กรณีความรุนแรงในพื้นที่ตะวันออกกลางโดยมีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารกระทรวงแรงงาน
นายพิพัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า เรามีแรงงานไทยที่ไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายในอิสราเอล 3.3 หมื่นคน และเดินทางไปเอง ประมาณ 6.5 พันคน โดยประกอบอาชีพหลักในภาคเกษตร 29,300 คน ก่อสร้าง 2,500 คน และภาคอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีก 1,200 คน ส่วนที่อิหร่านนั้นเรามีแรงงานไปทำงานนวดแผนไทย สปา 39 คน มีคนไทยพำนักถาวรและชั่วคราวรวมประมาณ 250–300 คน ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดพบว่าแรงงาน และคนไทยในพื้นที่ความรุนแรงนั้นมีความปลอดภัยดี ยังไม่ได้ผลกระทบ สามารถสื่อสารกันได้ โดยเฉพาะที่อิสราเอลได้มีการสื่อสารผ่านรัฐบาล และได้ประสานงานกับหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของอิสราเอล (PIBA) ให้สื่อสารถึงนายจ้าง โดยเฉพาะภาคการเกษตรให้ดูแลคนงานไทย อย่านำคนไทยเข้าไปในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย พร้อมเตรียมข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มเพื่อรองรับ ส่วนถ้ามีความไม่ปลอดภัย ปลัดกระทรวงแรงงานได้มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานที่บ้าน (Work from Home) ใกล้ที่หลบภัย ติดต่อผ่านโทรศัพท์ได้ตลอดเวลา จากนี้ตนจะได้เรียนต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้หารือถึงแผนการอพยพแรงงานไทย ในอิสราเอลนั้นเราเคยดำเนินการเรื่องนี้มาแล้ว มีการตั้งหน่วยเฉพาะกิจ 16 จุด หารือกันเบื้องต้นว่าการอพยพที่สะดวกสุดคือการอพยพทางบกข้ามพรมแดนไปยังประเทศจอร์แดน ใช้เวลาไม่มาก แต่สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมการเดินทางตั้งแต่ต้น รวมถึงตนจะประสานกระทรวงการต่างประเทศไว้เบื้องต้นว่าเราจะขอความช่วยเหลือด้านใดบ้าง นอกจากนี้ยังสำรองการอพยพทางเรือ แต่ค่อนข้างใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมง ดังนั้นหากจำเป็นก็จะอพยพทางบกดีกว่า ส่วนทางอากาศนั้นเดินทางไม่ได้ เนื่องจากมีการปิดน่านฟ้า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีผู้ขออพยพ นอกจากนี้ยังได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมง อีกทั้งปลัดกระทรวงแรงงาน ยังยืนยันว่าได้มีการเตรียมงบประมาณสำหรับใช้ในยามฉุกเฉิน สามารถแจ้งเข้ามาที่ศูนย์ฯ ได้เลย ส่วนตัวเลขงบประมาณนั้นเท่าไหร่ก็เท่านั้น แต่หากไม่พอตนก็จะทำเรื่องของบกลางเพิ่มได้
“วันนี้รัฐบาล กระทรวงแรงงาน ท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องคนไทยในพื้นที่ทั้งอิสราเอล และอิหร่าน ขอให้อยู่กันเป็นกลุ่ม แต่อย่ากลุ่มใหญ่ แล้วประสานงาน ติดต่อกันให้ได้ อยู่ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด” รมว.แรงงาน กล่าว และว่า การอพยพเบื้องต้นคือไปยังประเทศที่มีความปลอดภัยก่อน ถ้าหากสถานการณ์คลี่คลายลงอาจจะให้พักในจอร์แดน ไม่ต้องขนกลับประเทศไทย แต่หากมีคนต้องการกลับไทย ทางรัฐบาลไทยก็จะหาวิธีไปรับคนไทยกลับ สำหรับแรงงานไทยที่จะจัดส่งไปทำงานที่ตะวันออกกลางนั้น ตอนนี้มีการระงับการจัดส่งแรงงานไทย กลุ่มที่จะเดินทางในเดือน มิ.ย.นี้ ประมาณ 2 พันกว่าคน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ความรุนแรงในครั้งนี้จัดว่าอยู่ในระดับสูงสุด ไม่สามารถประมาณการได้ว่าการต่อสู้กันจะเป็นอย่างไร จะยุติเมื่อไหร่ และจะเริ่มต้นอีกเมื่อไหร่ เพราะมีการโจมตีทางอากาศ เราจึงต้องสื่อสารถึงคนไทยที่ไปทำงานทั้ง 2 ประเทศ ขอให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ถ้าได้ยินเสียงไซเรนเตือนก็ขอให้รีบเข้าหลุมหลบภัย ตอนนี้เราไม่มีความสบายใจเพราะอยู่ในสภาวะสงคราม.