เมื่อเรียนจบแล้ว ต้องทำการบ้านเพื่อให้ร้านอาหารแต่ละร้าน นำเมนูเด็ด ๆ ของตนมาลองคอลแลบกับเพื่อน ๆ เพื่อให้เกิดเมนูนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ร้านอาหารทั้ง 12 ร้าน ได้แก่ 1. Cabbages & Condom ร้านอาหารไทยที่ต่างชาติชื่นชม 2.TheArtisan อยุธยา ศิลปะอาหารโบราณแบบกรุงเก่า 3. มะเก่า ข้าว เตี๋ยว เปรี้ยวปาก รสชาติดั้งเดิมแบบเยาวราช 4.ร. เรือ ก๋วยเตี๋ยวเรือรสจัด ไม่ต้องรอ 5. Steve Cafè & Cuisine สุดยอด เชฟกับเมนูเลิศรสในตำนาน 6. นคร มู เบอร์เกอร์สายมู 7. ครัว ชมทะเล สดจากสามร้อยยอด อร่อยครบรสแบบชาว ประจวบ 8. ร่ำรวยเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาแท้ รสชาติซอสดั้งเดิม 9. ดุกมั้ง เมนูปลาดุกที่ไม่เหมือนใคร 10. เลม่อนโกล์ สุดยอดมะนาว GI ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Gastronomy เมืองเพชรบุรี 11. รสโบราณ
สเตชัน
เครื่องดื่มโบราณ โกโก้รสเด็ดไม่เหมือนใคร 12. เทพพนม สาโทคราฟต์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หมักบ่มจากวัตถุดิบสร้างสรรค์จากชุมชน

       ผู้ประกอบการทั้ง 12 ร้าน เข้าครัวคิดนวัตกรรมร่วมกัน ว่าเมนูเด็ดของตน จะต้องไปคอลแลบกับเพื่อนคนไหนให้ออกมาดีที่สุด แล้วมาออกแบบจัดเป็น Chef Table ที่ไม่เหมือนใคร เรียกได้ว่าเป็นการผสมผสานนวัตกรรม จนกลายเป็นนวัตเกิน (ความ
คาดหมาย)
ทุกเมนูถือเป็นครั้งแรกของเมืองไทย และมีแผนจะต่อยอดไปจัดในอีเวนต์สำคัญ ๆ ทั้งเมืองไทย และต่างประเทศ
ผมลองแล้วถือว่ายอดเยี่ยมไม่แพ้ Chef Table ที่จัดโดยเชฟชื่อดังระดับโลก และนี่คือ 12 สุดยอดเชฟไทย ที่รังสรรค์ Soft Power
ที่มีเรื่องราวด้านวัฒนธรรมและความยั่งยืน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ จากฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร
สนใจนวัตเกินนี้ลองติดต่อทีมส่งเสริมของ DIPROM นะครับ.