วานนี้ (16 มิ.ย. 2568) สำนักข่าวเดลีเมล์รายงานกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ จำเป็นต้องหันหัวกลับสนามบินต้นทางหลังจากขึ้นบินไปไม่นาน เนื่องจากพบปัญหา ‘ขัดข้องทางเทคนิค’
หลังจากเครื่องบินลำดังกล่าว ออกเดินทางเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2568 จากสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ไปยังเมืองเจนไน รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย เพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง นักบินก็สงสัยว่าเกิดปัญหาทางเทคนิค
ข้อมูลจากบริการติดตามเส้นทางการบินออนไลน์ Flightradar24 ระบุว่า เที่ยวบิน BA35 บินวนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเหนือน่านน้ำช่องแคบโดเวอร์ เพื่อทิ้งเชื้อเพลิงก่อนที่จะลงจอดอย่างปลอดภัยบนรันเวย์เมื่อเวลา 13.50 น. ของวันเดียวกัน ตามเวลาท้องถิ่น
สายการบินบริติชแอร์เวย์ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า เที่ยวบินที่มุ่งหน้าสู่เมืองเจนไน ได้เดินทางกลับสนามบินฮีทโธรว์ที่ลอนดอน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการป้องกันตามมาตรฐานการบิน
แหล่งข่าวรายหนึ่งยืนกรานว่า การบินกลับครั้งนี้ไม่ใช่การลงจอดฉุกเฉิน และเป็นเรื่องปกติที่เครื่องบินจะกลับไปยังสนามบิน หลังจากที่มีการรายงานปัญหาทางเทคนิค
รายงานข่าวระบุว่า มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอบนโซเชียลมีเดียที่อ้างว่าบันทึกภาพจากภายในเครื่องบินที่เกิดปัญหา แสดงให้เห็นว่ามีการทิ้งเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นคลิปที่บันทึกจากเครื่องบินลำดังกล่าวจริงหรือไม่
หลังจากนั้นในวันที่ 16 มิ.ย. 2568 เวลาเที่ยงวันตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบินโบอิง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ของสายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบินฮ่องกง-นิวเดลี ก็จำเป็นต้องวกกลับกลางทางไปยังสนามบินต้นทางที่ฮ่องกง เนื่องจากนักบินสงสัยว่ามี ‘ปัญหาทางเทคนิค’ เช่นกัน
แหล่งข่าวที่ทราบเรื่องดังกล่าว เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เครื่องบินดรีมไลเนอร์ที่ให้บริการเที่ยวบิน AI315 ของสายการบินแอร์อินเดียนี้ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ข้อมูลการติดตามการบินของ Flightradar24 ชี้ว่า เที่ยวบิน AI315 ออกเดินทางจากฮ่องกงเวลา 12.16 น. และลงจอดในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา
เหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของเครื่องบินโบอิ้งรุ่นนี้มากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์โศกนาฏกรรมแอร์อินเดียที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินแสดงความเห็นว่า เครื่องยนต์ของเครื่องบินน่าจะขัดข้องพร้อมกันทั้งสองเครื่อง ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่คร่าชีวิตผู้โดยสารไป 241 คน
ที่มา : dailymail.co.uk
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES