เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำอำเภอโอรเสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงโชยออกมาจากห้องพักชั้น 3 ของอาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบศพชายไทยนอนหงายขึ้นอืดอยู่มุมห้อง สวมเพียงกางเกงในสีขาวและเสื้อโปโลลายตัดสีน้ำเงิน-ขาว โดยคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน บริเวณศีรษะมีบาดแผลแตกและมีเลือดไหลนองพื้น ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งทั่วห้อง
จากการตรวจสอบเอกสารและสอบถามผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายทศพร ใจเสงี่ยม อายุ 58 ปี ชาวตำบลชุมเห็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งทราบว่าเคยมีอาชีพเป็นทนายความ และมาเช่าห้องพักดังกล่าวอาศัยอยู่มานานกว่า 1 ปี

เจ้าหน้าที่กัมพูชาสันนิษฐานเบื้องต้นว่า การเสียชีวิตอาจมี 2 ประเด็น คือ อาจลื่นล้มจนศีรษะกระแทกพื้นเสียชีวิต หรืออาจเป็นการฆาตกรรมเพื่อชิงทรัพย์ เนื่องจากเพื่อนหญิงชาวไทยของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า นายทศพรเคยกล่าวว่ามีเงินสดติดตัวอยู่กว่า 700,000 บาท แต่ภายในห้องพักกลับพบเพียงเงินสด 1,500 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีพยานชาวกัมพูชาให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินทางมาพร้อมผู้ตาย และขึ้นไปที่ห้องพัก ก่อนจะลงมาโดยลำพัง ซึ่งตรงกับช่วงเวลาก่อนพบศพเพียงไม่กี่วัน
เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้นำศพลงมาจากชั้น 3 ของอาคารอย่างทุลักทุเล โดยใช้วิธีพันศพด้วยผ้าสีน้ำเงินแล้วผูกเชือกโยงลงทางระเบียงด้านหน้า ขณะนี้ได้เก็บร่างผู้เสียชีวิตไว้ที่วัดแห่งหนึ่งฝั่งกัมพูชา เพื่อรอการติดต่อจากญาติ
ล่าสุด ญาติของผู้เสียชีวิตได้ประสานงานเพื่อเดินทางไปรับศพในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) หลังจากด่านพรมแดนช่องจอมเปิดทำการ
ทางด้าน สภ.กาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นนอกเขตอำนาจของตำรวจไทย เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่โอรเสม็ด ประเทศกัมพูชาในการสืบสวนสอบสวน ทั้งนี้ หากญาติมีข้อสงสัยหรือติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต สามารถร้องขอความช่วยเหลือผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดำเนินการประสานคดีในระดับระหว่างประเทศต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝั่งไทยจะให้ความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่