เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาตามแนวทางการประเมินผลนักเรียนระดับนานาชาติ หรือ พิซา พบว่า การดำเนินงานดังกล่าวพบ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ปราจีนบุรี เขต 1 และ เขต 3 นักเรียนมีอุปสรรคในการตีความโจทย์การอ่าน แบบวิเคราะห์ในเรื่องการอ่าน โดยได้ย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปรับการเรียนการสอน เพื่อให้เด็กคิดวิเคราะห์และการอ่านแบบตีความได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  ขณะเดียวกันสภาการศึกษา (สกศ.) ได้รายงานผลวิเคราะห์เบื้องต้นของการจัดอันดับความสามารถทางการแข่งขันทางการศึกษา International Institute for Management Development (IMD) ปี 2025 พบว่า  ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 30 ซึ่งเป็นแนวโน้มคงที่หรือลดลง 1 อันดับ เนื่องจากการจัดอันดับดังกล่าวของ IMD มีประเทศสมาชิกที่เข้ามาใหม่ คือ ประเทศออสเตรีย โอมาน และนามิเบีย  โดย สกศ.ได้ถอดบทเรียนจากผลวิเคราะห์ดังกล่าวแล้ว พบว่า ประเทศไทยจะต้องให้ความสำคัญการปรับปรุงข้อมูลทางการศึกษาให้ถูกต้อง ครบถ้วนและทันสมัยในระบบฐานข้อมูลทางการศึกษาในระดับนานาชาติ เพื่อที่จะให้ข้อมูลสถิติทางการศึกษาของประเทศไทยดีขึ้น อีกทั้งประเทศไทยจะต้องมีความร่วมมือกับภาคเอกชนในการพัฒนาการศึกษาให้มากขึ้น

“แม้ประเทศไทยจะมีความร่วมมือกับภาคเอกชนเป็นจำนวนมาก แต่มุมมองของภาคเอกชนที่มีต่อระบบการศึกษาไทยยังไม่ดีขึ้น ดังนั้นจำเป็นที่ประเทศไทยจะต้องดึงภาคเอกชนเข้ามาช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ได้มากกว่านี้ เช่น ให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนช่วยการปรับโครงสร้างการศึกษา หรือร่วมกำหนดนโยบายในการจัดการศึกษา เป็นต้น” นายสุรศักดิ์ กล่าว