เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 68 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ในฐานะโฆษกคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ใน กมธ.การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงว่า ในวันที่ 18 มิ.ย. นี้ เป็นวันครบ 180 วัน ที่ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ที่แก้ไขในประเด็นการใช้เสียงข้างมากชั้นเดียวเป็นเกณฑ์ผ่านประชามติเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ หลังจากที่เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. สภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่เห็นด้วยและต้องยับยั้งร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวไว้ ดังนั้นอนุ กมธ. จะใช้เป็นโอกาสลั่นฆ้องเพื่อนับหนึ่งต่อกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน ซึ่งอนุ กมธ. จะศึกษาข้อบกพร่องของรัฐธรรมนูญ เช่น ที่มาของ สว. ที่เปิดช่องให้เกิดการฮั้ว องค์กรอิสระที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน ประชาชนไม่มีอำนาจถอดถอนกรรมการองค์กรอิสระได้ แม้จะพบว่ามีปัญหา เพื่อนำเสนอต่อสาธารณะ โดยการประชุมวันที่ 18 มิ.ย. นี้ จะพิจารณาถึงรูปแบบของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่จะทำหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า เชื่อว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดแรกของสมัยประชุมสภา วันที่ 3 ก.ค. นี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะบรรจุวาระร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เพื่อให้ สส. ลงมติยืนยันด้วยเสียงข้างมาก ซึ่งตนเชื่อว่าเสียงลงมติจะถึงเกณฑ์ เพราะพรรคประชาชนให้ความสนับสนุน เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย จากนั้นต้องส่งไปประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ส่วนกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลจะผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.การประกอบสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ขึ้นมาเป็นอันดับแรกนั้น ตนมองว่าต้องวัดใจว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องใด
เมื่อถามว่า กับสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน มองว่าจะทำให้โอกาสแก้รัฐธรรมนูญทำได้วาระสภาสมัยนี้หรือไม่ น.ส.นันทนา กล่าวว่า เป็นประเด็นที่เร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยไม่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อจำนวนครั้งการทำประชามติรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ดังนั้นต้องเร่ง เนื่องจากมีข่าวว่าจะยุบสภาในต้นปี 69 ซึ่งอาจไม่ทันให้มีรัฐธรรมนูญใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่หากกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มต้นให้มี ส.ส.ร. จะทำให้เริ่มเดินหน้าได้ เว้นแต่จะมีการรัฐประหาร ซึ่งตนขอเรียกร้องไม่ให้ทำ
ด้านนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. ในฐานะที่ปรึกษาอนุ กมธ. กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องคุยอย่างจริงจัง และให้สังคมมีส่วนร่วม ส่วนสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนนั้น ตนมองว่าเป็นโอกาสที่ทุกพรรคการเมืองที่เคยระบุไว้ตอนหาเสียง ต่อการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญญ จะใช้เป็นโอกาสผลักดัน ไม่เตะถ่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีปัญหา.