เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.การต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า ตนได้ยินได้ฟังแล้ว ก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะ น.ส.แพทองธารไม่สามารถแยกแยะเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องส่วนรวม ไม่เข้าใจถึงสถานะผู้นำประเทศไทยที่ตนดำรงอยู่ สิ่งที่ น.ส.แพทองธารพูดออกไปกับสมเด็จฮุน เซน นั้น น.ส.แพทองธารต้องไม่ลืมว่าอยู่ในฐานะการเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ซึ่งแม้แต่จะแค่คิดสิ่งที่พูดไปขึ้นมาในหัวเฉยๆ ก็ยังไม่ได้เลย เพราะประเทศไทยกำลังถูกข่มเหงจากสมเด็จฮุน เซน ผู้ที่เป็นเผด็จการรัฐสภาและทำการกดขี่ประชาชนชาวกัมพูชา 40 กว่าปี

“และวันนี้เขาก็เล่นเกมชาตินิยมป้ายสีให้ประเทศไทยและคนไทยเป็นคนร้ายในสายตาของชาวกัมพูชา เพียงเพื่อที่จะได้ครองอำนาจต่อไป ขณะที่กองทัพไทยคือหนึ่งในกลไกหลักในการปกป้องประเทศ ซึ่งท่านจะต้องหารือ ร่วมตัดสินใจ และสนับสนุนการขับเคลื่อนของกองทัพ ไม่ใช่ไปบอกศัตรูผู้รุกรานว่ากองทัพไม่ใช่พวกเดียวกับคุณอิ๊งค์ (แล้วคุณอิ๊งค์เป็นพวกเดียวกันกับสมเด็จฮุน เซนหรือ) รวมทั้งไปโพนทะนากลยุทธ์กดดันต่างๆ ของฝั่งไทยว่ามันไม่จริง ได้โปรดอย่าไปสนใจ” นายกษิต ระบุ

อดีตรมว.การต่างประเทศ ระบุอีกว่า ปัญหาเรื่องความไว้วางใจที่ น.ส.แพทองธารกล่าวไว้นั้น กำลังเกิดขึ้นระหว่างประชาชนชาวไทยกับ น.ส.แพทองธาร ซึ่งฝ่ายค้าน นักวิชาการ สื่อมวลชน และสถาบันต่างๆ จะต้องเป็นกระบอกเสียงให้กับสังคมไทยไปยัง น.ส.แพทองธารว่าควรจะพิจารณาตัวได้แล้วว่าตัวเองไม่เหมาะกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกต่อไป และถ้า น.ส.แพทองธารได้ยินเสียงเหล่านี้ ก็ควรพิจารณาตัวเอง ก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำประเทศไทยทันที และสมควรที่จะก้าวออกไปจากแวดวงการเมืองไทยอย่างถาวร เนื่องจากการไร้ความสามารถในการบริหารประเทศแล้ว ยังไร้ศักดิ์ศรีในฐานะคนไทยอีกด้วย