เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI  ได้เข้ามามีบทบาทเป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมพลังให้มนุษย์สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด  หากสามารถนำ AI มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ให้กับชีวิต

รัฐบาลโดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี) ก็ร่วมกับภาคเอกชนส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึงการใช้งาน AI ซึ่งหนึ่งในโครงการที่สำคัญก็คือ การร่วมกับ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย มุ่งมั่นเสริมสร้างทักษะ AI ให้กับคนไทยผ่านโครงการ “THAI Academy: ขับเคลื่อนอนาคต AI ประเทศไทย”

โดยโครงการนี้มีเป้าหมายยกระดับทักษะ AI ให้คนไทยกว่า 1 ล้านคน ภายในปี 2568 โดยร่วมมือกับพันธมิตรกว่า 35 องค์กรจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ครอบคลุม 4 ด้านหลัก ได้แก่ การขับเคลื่อนหน่วยงานภาครัฐ การพัฒนาภาคการศึกษา การเสริมพลังผู้ประกอบการ และการสร้างโอกาสการเรียนรู้อย่างทั่วถึง

วันนี้ คอลัมน์ “ชีวิตติด TECH” จะมีมุมมอง ของเรื่องราวความสำเร็จ ของคนไทยที่ใช้ AI  จนเกิดการเปลี่ยนแปลงในมิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาบอกกัน

เริ่มที่ “วิวัฒน์ สาทรสวัสดิ์” หรือ เบนซ์ บอกว่า  ตนประกอบอาชีพ ช่างภาพฟรีแลนซ์ แต่ ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตโควิด-19 เมื่อปี 2562 จึงตัดสินใจหาโอกาสใหม่ผ่านการเรียนรู้ทักษะด้านไอที โดยเริ่มที่ Microsoft Learn ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ฟรีของไมโครซอฟท์

“ผมตั้งใจเรียนทุกบทเรียนเหมือนกับว่าอนาคตของผมขึ้นอยู่กับมัน AI ไม่ใช่เครื่องมือที่จะมาแทนแรงงานมนุษย์ แต่เป็นคู่หูที่ช่วยเราทำงานได้เร็วขึ้น เติบโตได้ชัดเจนขึ้น และเปลี่ยนแปลงชีวิตได้อย่างแท้จริง”

ซึ่งหลังจากจากการศึกษาด้วยตนเองและความมุ่งมั่นไม่หยุดพัฒนา ภายในเวลาเพียง 5 ปี  ปัจจุบันได้กลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไอที มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า และยังมีโครงการสร้าง Startup ในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

ขณะที่อีกมุมในด้านวัฒนธรรม และท่องเที่ยว ที่นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาช่วยยกระดับชุมชุนบ้านตำนานดิน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี

“ธนกฤต วงษ์ศา”  ผู้นำชุมชนไทยทรงดำ (หรือลาวซ่ง)  บอกว่า ตนและ “ขวัญ” บุตรสาว ได้นำ AI มาช่วยอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมอันเก่าแก่กว่า 200 ปีของชุมชน  โดยนำมาใช้ในการช่วยในการแปลภาษา จัดทำเนื้อหาประชาสัมพันธ์ และหาข้อมูลในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 “ก่อนที่เราจะรู้จัก AI ต้องรอให้ลูกสาวกลับมาจากที่เรียนในวันหยุดเพื่อช่วยสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และหลายๆ ครั้งหากเจอนักท่องเที่ยวพูดภาษาจีน ญี่ปุ่น หรือเยอรมัน พวกเราก็ยังติดขัดอยู่ดี”

ขณะที่ “ขวัญ” บอกว่า ทุกวันนี้ AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่คือสะพานที่เชื่อมโยงจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของคน  โดย AI ถ่ช่วยายทอดเรื่องที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น และประเพณีต่างๆ ให้น่าสนใจ มีชีวิตและมีความหมายใหม่แก่ทุกคน”

ทั้งนี้ความสำเร็จของชุมชนบ้านตำนานดินยังสอดคล้องกับโครงการพัฒนาทักษะ AI เพื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการ AI Skills for Tourism  ที่ไมโครซอฟท์ร่วมมือกับสถาบันคีนันแห่งเอเซีย โดยจัดกิจกรรมนำร่องในพื้นที่ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนในภาคการท่องเที่ยวด้วย

ส่วนในเรื่อง  AI กับการศึกษานั้น มีมุมที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ที่เราสามารถปฏิวัติการเรียนรู้ด้วย AI ในได้ เหมือนกรณีศึกษาของ โรงเรียนศรีสุวิช จังหวัดชลบุรี

“วรรณวิสา หอมสุวรรณ” หรือ ครูวิว  บอกว่า ได้นำ Microsoft Copilot มาปฏิวัติการสอนคณิตศาสตร์ เปลี่ยนวิชาที่หลายคนมองว่ายากให้มีชีวิตชีวาและเข้าใจง่าย ช่วยให้นักเรียนสามารถเห็นภาพแนวคิดทางคณิตศาสตร์ที่เป็นรูปธรรม ทำให้เข้าใจและเรียนรู้ได้เร็วขึ้น สามารถวิเคราะห์และแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนักเรียนที่ทำโจทย์คณิตศาสตร์ไม่ค่อยได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่ง แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถจินตนาการภาพได้

ทางด้าน “ดร. ประถมาภรณ์ ฟักฤกษ์” ผู้อำนวยการโรงเรียน  บอกว่า ที่โรงเรียนศรีสุวิช เราเชื่อว่าการผสานรวม AI ในการศึกษาไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่เป็นการสร้างความหวังและสร้างอนาคตที่สดใส ช่วยให้เราสามารถปรับการเรียนรู้ให้เข้ากับสถานการณ์และความเหมาะสม

 ความสำเร็จนี้สอดคล้องกับความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์กับกระทรวงศึกษาธิการภายใต้โครงการ THAI Academy ที่มุ่งพัฒนาทักษะ AI แก่บุคลากรครู เพื่อถ่ายทอดความรู้ต่อไปยังนักเรียนในทุกระดับชั้นทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) บรรจุเนื้อหาจากหลักสูตรพื้นฐานด้าน AI ของไมโครซอฟท์ไว้ในหลักสูตร AI Literacy สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วย

 ขณะที่ในมุมของภาคธุรกิจที่ได้นำ AI มาใช้งานยกระดับธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมเกษตรไทย  ทาง “วราภรณ์ มนัสรังษี” กรรมการผู้จัดการของ K-Fresh ที่ทำธุรกิจส่งออกมะพร้าวน้ำหอมรายใหญ่ของไทย บอกว่า นำ AI มาปฏิวัติธุรกิจ ทั้งการควบคุมคุณภาพ วิเคราะห์ความสด ขนาด และปริมาณน้ำตาลของผลไม้แบบแม่นยำ รวมถึงทำนายแนวโน้มตลาดเพื่อปรับแผนการผลิตและจัดส่งล่วงหน้า นอกจากนี้ยังใช้ AI ในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ซื้อ และปรับเปลี่ยนข้อเสนอให้เหมาะสม

“AI ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยี แต่เป็นเพื่อนคู่คิดคนสำคัญที่ช่วยให้สามารถตัดสินใจอย่างแม่นยำ และนำไปใช้ในชีวิตส่วนตัวด้วย เช่น งานประดิษฐ์ ออกแบบภาพประกอบหนังสือนิทาน และวิเคราะห์การลงทุน ก่อนหน้านี้ ต้องเผชิญกับความผันผวนของตลาด ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน และความจำเป็นในการควบคุมคุณภาพแบบเรียลไทม์ วิธีการแบบเดิมไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่สูงขึ้นของผู้ซื้อจากต่างประเทศได้”

ทั้งนี้โครงการ THAI Academy ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย (DCT) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อขับเคลื่อนการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยกว่า 20,000 คน

ถือเป็นการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการใช้ AI  เพื่อยกระดับ “ชีวิต เรียน ทำงาน ธุรกิจ” ให้กับทุกภาคส่วนของไทย!?!

 Cyber Daily