ตลาดรถยนต์มือสองช่วงที่ผ่านมาเริ่มขาดแคลนจำนวนรถที่ใช้แล้วเริ่มหายไปจากท้องตลาดเนื่อง จากปี 2 ปีที่ผ่านมารถใหม่ขายลดลงอย่างมากด้วยเศรษฐกิจไม่เอื้อประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดเรื่องการปล่อยสินเชื่อมีขั้นตอนมากขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยง หนี้เสียมีมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจำนวนรถใหม่จึงลดลง และคาดว่าปีนี้รถใหม่คาดว่าจะขายได้ไม่เกิน 520,000 คันเท่านั้น ล้วนแต่เป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อรถมือสอง

ในส่วนของผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว “วิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ” สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วได้กล่าวถึงตลาดรถมือสองในปีนี้ว่า ในตลาดขณะนี้ปริมาณรถใช้แล้วลดลงอย่างต่อเนื่อง และเริ่มขาดแคลนไม่มีของออกสู่ตลาด ขณะเดียวกันเต็นท์รถแย่งกันซื้อจึงทำให้ราคาลดปรับสูงขึ้นถึง  25% และรถบางกลุ่มโดยเฉพาะรถพรีเมี่ยมได้ปรับตัวขึ้นสูงมาก สถานการณ์นี้จะยังคงต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี และคาดหวังว่าในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้  และไตรมาสแรกของปี 69 จะมีรถเข้าตลาดจากการปล่อยรถยึดของสถาบันการเงินเข้าสู่ตลาดประมูลแต่จำนวนก็ไม่ได้มากนักไม่สอดคล้องกับความต้องการที่มีจำนวนมากในขณะนี้

ที่ผ่านมาเห็นว่ารถเต็นท์ขนาดเล็กบางเต้นได้ปิดกิจการลงส่วนเต็นท์ขนาดกลางได้ปรับขนาดธุรกิจลดลงตอนนี้ที่ยังอยู่ได้จะเป็นเต็นท์ขนาดใหญ่ และเป็นกลุ่มที่เสาะหารถมาจำหน่ายได้ เพราะสามารถสู้ราคาได้ปัจจุบันมีเต็นท์รถที่เป็นสมาชิกในสมาคม450 รายปริมาณยังทรงอยู่เท่าเดิมอาจจะมีรายเก่าออกไปแล้วมีรายใหม่เข้ามาทดแทนจะทรงๆอยู่ในระดับนี้

“รถมือสองที่ใช้ในชีวิตประจำวันมีปริมาณน้อยและหายากในปีนี้ปริมาณรถที่หมุนเวียนในระบบไม่น่าจะถึง 150,000 คันส่วนหนึ่งมาจากมาตรการคุณสู้เราช่วยที่รัฐช่วยปลดหนี้จึงทำให้ผู้บริโภคสามารถครอบครองรถได้ต่อไป และเป็นไปตามจำนวนรถใหม่ที่ลดลงดังนั้นจึงไม่มีรถหมุนเข้ามาในระบบและที่สำคัญผู้บริโภคหันมาใช้รถมือสองส่วนใหญ่ซื้อเงินสด”


ทางด้านรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี  ขณะนี้ยังมีเข้ามาในตลาดรถใช้แล้วแต่เต็นท์รถไม่สามารถที่จะซื้อสต๊อกไว้ได้นอกเหนือจากมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าและลูกค้าส่วนใหญ่ซื้อรถเงินสดเนื่องจากว่าราคารถ อีวี มีความผันผวนสูงประกอบกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะบริษัทประกันบางค่ายไม่รับประกันภัยให้กับรถอีวีบางยี่ห้อด้วยดังนั้นทางเต็นท์รถจึงไม่ซื้อมาสต๊อกไว้ 

นายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ รองประธานจัดงาน ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์   ได้ร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจรถยนต์ใช้แล้ว  จัดเสวนาในหัวข้อ “เทรนด์รถมือสอง 2568 : มาตรฐานใหม่ยกระดับความเชื่อมั่นตลาดรถยนต์ใช้แล้ว” ตลาดยังทรงตัว ซึ่งสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้ คือ รถยนต์ใช้แล้ว ทางเลือกคุ้มค่า จ่อปรับขึ้นราคาอีก 10-15% เพราะยังเป็นทางเลือกในภาวะที่เศรษฐกิจทรงตัว และกำลังซื้อถดถอย รถยนต์ใช้แล้วที่ได้รับความนิยมสูงและราคาปรับขึ้นไป คือ รถในกลุ่มไฮบริดและรถยุโรปสภาพดีเพราะค่อนข้างหายาก  ส่วนรถยนต์ไฟฟ้ามือสองปัจจุบันยังไม่อยู่ในความสนใจเพราะโอกาสในการทำธุรกิจยาก เป็นต้น

“ภาพรวมของธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วยังคงทรงตัวต่อเนื่องจากปีที่แล้ว คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังราคารถยนต์ใช้แล้วมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นราว 10-15% เนื่องจากรถที่มีคุณภาพสูงในตลาดเริ่มมีจำนวนจำกัด ส่วนรถที่เห็นค้างลานเป็นรถที่ไม่ผ่านเกณฑ์การรับซื้อ”