สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ว่า ความตึงเครียดด้านการค้าครั้งล่าสุดระหว่างกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ทั้ง 27 ชาติและจีน ครอบคลุมถึงตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์หลากหลายประเภท รวมมูลค่า 150,000 ล้านยูโร (ราว 5.6 ล้านล้านบาท) ตั้งแต่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ไปจนถึงเครื่องเอกซเรย์

นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ตำหนิอียูว่า พวกเขาอวดอ้างว่าเป็นตลาดซึ่งเปิดกว้างที่สุด แต่หันไปใช้นโยบายกีดกันทางการค้า ภายใต้หน้ากากของการแข่งขันที่เป็นธรรม

ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของอียู ระบุในแถลงการณ์ว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการตอบโต้รัฐบาลปักกิ่ง จากการที่เกือบ 90% ของสัญญาจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้านอุปกรณ์การแพทย์ในจีน “อยู่ภายใต้มาตรการกีดกันและเลือกปฏิบัติ” ต่อบริษัทจากสหภาพยุโรป

เมื่อเดือน เม.ย. 2567 คณะกรรมาธิการได้เปิดการสอบสวนสัญญาจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ทางการแพทย์ของรัฐบาลจีน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกภายใต้กลไกใหม่ที่อียูนำมาปรับใช้ เมื่อปี 2565 เพื่อให้มีการเข้าถึงระบบจัดซื้อในต่างประเทศได้ดีขึ้น.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES