สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ว่า วุฒิสมาชิก และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐบาลวอชิงตัน โต้แย้งว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐ ไม่แสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นจากอิหร่าน ส่งผลให้ทรัมป์ตัดสินใจดำเนินการฝ่ายเดียว
“การกระทำของประธานาธิบดีทรัมป์ ในการทิ้งระเบิดใส่อิหร่าน ทำให้สหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยงของสงครามที่ขยายวงกว้างในตะวันออกกลาง และการดำเนินการทั้งหมดไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ” นายดิค เดอร์บิน วิปวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต กล่าวในแถลงการณ์
Democrats assail 'erratic' Trump over Iran strikeshttps://t.co/fYCEKmfi7B
— AL-Monitor (@AlMonitor) June 23, 2025
อนึ่ง พรรคเดโมแครตแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายที่เรียกร้องให้มีการลงมติเกี่ยวกับอำนาจในการทำสงคราม เพื่อจำกัดอำนาจของทรัมป์ในการดำเนินการเพิ่มเติม ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งที่เป็นกลุ่มเล็กกว่า ยืนกรานว่า การโจมตีอิหร่านเป็นเหตุให้ทรัมป์สามารถถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
ขณะที่ นายชัค ชูเมอร์ และนายฮาคีม เจฟฟรีย์ส ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐ และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ตามลำดับ กล่าวว่า ทรัมป์เพิ่มความเสี่ยงของอเมริกา “อย่างมาก” ในการเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งในตะวันออกกลางครั้งใหม่ พร้อมกับเสริมว่า ประธานาธิบดีไม่ควรได้รับอนุญาต ให้นำบ้านเมืองเข้าสู่สถานการณ์ที่ผลกระทบร้ายแรงเพียงฝ่ายเดียว ด้วยคำขู่ที่ไม่แน่นอน และการไม่มีกลยุทธ์ใด ๆ
อนึ่ง พรรคเดโมแครตมีนักการเมืองสายเหยี่ยวด้านนโยบายต่างประเทศจำนวนมาก และหลายคนรีบชี้ให้เห็นถึงภัยคุกคามจากอิหร่าน ควบคู่กับตำหนิทรัมป์ที่ดำเนินการก่อน โดยไม่ปรึกษาหารือกับฝ่ายนิติบัญญัติ.
เครดิตภาพ : AFP