การเล่นนอกจากส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ การเล่นยังเสริมสร้างทักษะความรู้  ฝึกการคิด ทั้งให้ความเพลิดเพลินยังประโยชน์หลากหลายมิติที่เป็นผลลัพธ์ทรงพลังจาก “การเล่น”

ขณะที่การเล่นไม่ได้หยุดอยู่แค่วัยเยาว์และไม่ใช่เพียงแค่ความบันเทิง แต่คือ เครื่องมือของการเรียนรู้ ทดลอง สร้างสรรค์ และพัฒนาอย่างยั่งยืน กระตุ้นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ทั้งนี้ชวนถอดรหัสการเล่น สำรวจสัญชาตญาณแห่งการเล่นที่แฝงไว้ด้วยความคิดสร้างสรรค์ อุดมการณ์ และแรงบันดาลใจ ใน “Thai Rubik – Play Instinct : เล่นให้เป็นจริง”

นิทรรศการหมุนเวียนประจำปี โดยมิวเซียมสยามนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการ“เล่นให้เป็นจริง” โดยใช้ “เถรอดเพล” หรือ Thai Rubik ของเล่นไม้ลับสมองจากภูมิปัญญาไทย ป็นจุดเริ่มต้นสะท้อนถึงการเล่นที่ไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่คือเครื่องมือการเรียนรู้ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์  โครงสร้างของเล่นไม้เถรอดเพลยังเป็นตัวอย่างของ “การออกแบบที่ยั่งยืน” และนิทรรศการครั้งนี้ฯก็ได้ทดลองออกแบบให้เป็นโครงสร้างแบบถอดประกอบได้ เพื่อนำไปใช้กับนิทรรศการชุดถัดไป สามารถหมุนเวียนใช้กับนิทรรศการอื่นๆ เป็นการลดการใช้ทรัพยากรและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในสถานการณ์โลกเดือดในปัจจุบัน ทั้งชวนตระหนักในคุณค่าการเล่น

 ทวีศักดิ์ วรฤทธิ์เรืองอุไร ภัณฑารักษ์นิทรรศการฯ ให้มุมมองเปิดโซนแรกปลุกสัญชาตญาณการเล่น เล่าถึงแนวคิดนิทรรศการฯว่า นิทรรศการครั้งนี้มีหลายโจทย์ โดยโจทย์หนึ่งที่มีความสำคัญเช่นกันคือ ความยั่งยืน เราพบของเล่นที่ถือเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้คือ เถรอดเพล  ของเล่นไม้ที่ซ่อนความพิเศษไว้หลายมิติให้ถอดรหัส โดยนำมาประยุกต์ใช้และกลายร่างต่อยอดออกไปได้อย่างน่าสนใจ

“ เถรอดเพลเวอร์ชั่นหลวงตาโจ้ย จากที่ท่านได้ทดลองประดิษฐ์ ดัดแปลงโดย ใช้เวลานาน 8 ปีในการให้ของเล่นไม้เป็นเครื่องตั้งศพที่มีความงาม ประณีต มีความแข็งแรง สามารถเคลื่อนย้ายนำไปจัดวางยังที่ต่างๆ ซึ่งเป็นแบบอย่างในเรื่องความยั่งยืน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และการลดใช้พลังงาน

 ความยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญ ครั้งนี้นอกจากพาย้อนความสนุก ย้อนความทรงจำที่มีต่อของเล่น ยังชวนมองมุมใหม่ๆจากของเล่น นำเรื่องการลดใช้พลังงาน การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ฯลฯ นำมาสื่อสาร เล่าผ่านของเล่น อย่างเช่นชิ้นที่กล่าว เถรอดเพล จากการค้นลึกลงไป แม้ยุคสมัยหลวงตาโจ้ย ปลายสมัยรัชกาลที่ 4 คำว่า“ความยั่งยืน” คำนี้แม้จะไม่มี  แต่สิ่งนี้เป็นแบบอย่างและเป็นเรื่องที่ดีที่จะชวนย้อนกลับไปศึกษาและบอกเล่า นิทรรศการฯครั้งนี้จึงนำเถรอดเพล นำมาขยายความ”

ขณะที่ ของเล่นทรงพลังปลุกสร้างจินตนาการไว้มากมาย ภัณฑารักษ์ให้มุมมองเพิ่มอีกว่า  จากโจทย์ เล่นให้เป็นจริง นอกจากของเล่นไม้หลวงตายังของเล่นอีกหลากหลายให้สนุก เรียนรู้และด้วยที่เราเป็น พิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ Play & Learn เรียนรู้อย่างรื่นรมย์  การเล่นเป็นเหมือนสัญชาตญาณของเรา นับแต่ที่ยังพูดไม่ได้ สื่อสารไม่ได้ แต่การเล่น ลองโยน  ลองปา ลองผิดลองถูกล้วนแต่เกิดกระบวนการเรียนรู้ และการเล่นยังทำให้เกิดจินตนา การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้เห็นมุมมองใหม่ๆจากการเล่น  จากของเล่นที่เกิดขึ้น

ภัณฑารักษ์คุณทวีศักดิ์ เล่าขยายเพิ่มอีกว่า เล่นให้เป็นจริง เราออกแบบให้ได้ลองเข้ามาเล่น พาย้อนสัมผัสบรรยากาศการเล่น ค้นความลัพธ์การเล่นที่มากกว่าความสนุก ทั้งนี้ การเล่นเป็นเรื่องของทุกวัย และนอกจากของเล่นที่เป็นความทรงจำ เมื่อได้เห็น ได้ลองเล่นก็ชวนให้คิดถึง การเล่นเป็นเหมือนการพาเรากลับไปในวันวาน วันที่มีความสุข สนุกกับการเล่น

ของเล่นบางชิ้นยังถ่ายทอดอุดมการณ์ บ่มเพาะความคิด ทั้งได้เรียนรู้ถึงการเปลี่ยนไปของโลกซึ่งศึกษาได้จากของเล่น อย่างเช่น เกมเศรษฐี ถือเป็นบอร์ดเกมยุคแรกๆที่ฝากแฝงเรื่องราวน่ารู้หลากเรื่องให้ศึกษา และในระหว่างการเล่นยังเป็นการข้ามกรอบความเป็นไปได้ใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ ได้เรียนรู้ตัวเราและเรียนรู้โลก 

นอกจากปลุกสัญชาตญาณในการเล่น  ในโซนต่อมายังพาให้เห็นอุดมการณ์ที่ซ่อนอยู่ในของเล่น นำเสนอของเล่นที่เป็นตัวแทนแห่งยุคสมัย อย่างเช่น บอร์ดเกมดังที่กล่าว ตุ๊กตาหมี Teddy Bear ที่ไม่ใช่แค่ตุ๊กตานุ่มๆ แต่คือสัญลักษณ์ของความอบอุ่น ความปลอดภัยและความรักในวัยเด็ก ฯลฯ หรือของเล่นพื้นบ้านไม้ ของเล่นที่ทำจากไม้ เป็นภาพสะท้อนของวิถีชีวิตไทยในยุคที่เด็กๆเติบโตมากับธรรมชาติและชุมชนไม้ไผ่ กลายเป็นวัตถุดิบที่เปลี่ยนได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ จักจั่น ไปจนถึงตุ๊กตา

“ของเล่นเหล่านี้ได้รับความนิยมอีกครั้งในฐานนะภูมิปัญญา และการเรียนรู้ของเด็กที่ไม่ต้องพึ่งพิงหน้าจอ เชื่อมโยงเด็กกับธรรมชาติและการประดิษฐ์ และในอีกแง่หนึ่งคือเรื่องความพอเพียง การรู้จักคุณค่าของวัสดุและการลงมือทำ”

ขณะที่ ของเล่นสังกะสี เป็นของเล่นยอดนิยมในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง สะท้อนถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในประเทศไทย ของเล่นเหล่านี้มักมีรูปทรงของยานพาหนะ เช่น รถยนต์ รถไฟ หรือเครื่องบิน และมีลวดลายสีสันสดใส และในอีกแง่หนึ่งของเล่นสังกะสียังแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์และฝีมือของช่างไทยที่สามารถผลิตของเล่นที่มีคุณภาพและความสวยงามได้อย่างน่าประทับใจ  ฯลฯ

 “นินเทนโด” อีกหนึ่งของเล่นที่ไม่ได้เป็นแค่เครื่องเล่นเกม แต่คือสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมป๊อปยุคดิจิทัลที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก อย่างเกม SUPER  MARIO ไม่เพียงให้ความบันเทิงแต่เป็นทูตทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นสอดแทรกแนวคิดการผจญภัย การเติบโตและชัยชนะของความพยายาม ฯลฯ

โซนเล่นให้เป็นจริง เรื่องราวของคนไม่หยุดเล่น ผู้ที่เปลี่ยนแรงบันดาลใจจากของเล่นวัยเด็กให้กลายเป็นงานศิลปะและโครงการสร้างสรรค์ นับแต่รถไฟจำลองและตุ๊กตุ่นในถุงขนม สู่ Art Toy ในกาชาปอง และโครงสร้างไม้แบบ Modular ที่ส่งต่อคุณค่าเพื่ออนาคต  นำเสนอกรณีศึกษาการเล่นที่สร้างแรงบัลดาลใจสู่การสร้างสรรค์สิ่งที่ใหม่

ดังตัวอย่างจาก นักสร้างโมเดลฉากรถไฟ ที่มีที่มาจากความหลงใหลรถไฟจำลอง นำมาเป็นแรงบัลดาลใจ ประกอบอาชีพเป็นนักประดิษฐ์เมืองจำลองรถไฟให้กับนักสะสมรถไฟจิ๋ว รวมถึงมีผลงานศิลปินสร้างสรรค์อาร์ตทอย” หิมพานต์มาร์ชเมลโล่” จัดแสดง ทั้งเป็นหนึ่งในกิจกรรมเสวนาเสริมทัพการเล่นเรียนรู้ รวมถึงยังมีการเสวนา

นอกจากนี้ยังมี ของเล่นในความทรงจำ เปิดพื้นที่ให้ได้หวนกลับไปนึกถึงของเล่นในวัยเยาว์ ของเล่นชิ้นแรกที่เล่นกับครอบครัว ซึ่งไม่เพียงหล่อเลี้ยงความสุขในวัยเด็กแต่ยังเป็นรากฐานความคิดสร้างสรรค์และตัวตนของเราในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งบอกเล่าการเล่น ชวนเล่นเรียนรู้ที่ต่อยอดการสร้างสรรค์ ต่อไปได้อีกมากมาย

                                                                                                         พงษ์พรรณ  บุญเลิศ