เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ว่า ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น หลังจากมีชาวกัมพูชาจำนวนมากเดินทางมารอข้ามแดนกลับบ้านที่ประเทศกัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชายังไม่เปิดด่าน โดยให้รอคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เท่านั้น หลายรายเป็นผู้ป่วยที่เพิ่งรักษาตัวจากโรงพยาบาลในไทย และคนขับรถบรรทุกสินค้าที่ลำเลียงพริกสดเข้าฝั่งไทยและต้องการกลับประเทศ แต่ไม่สามารถเดินทางกลับได้

ขณะที่ด่านฝั่งไทย ได้มีการเปิดประตูด่านในเวลา 08.20 น. ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดเดิมที่ประกาศไว้คือ 08.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยชี้แจงว่า การเปิดล่าช้านั้น เนื่องจากต้องรอการยืนยันจากหน่วยทหารในพื้นที่ว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงการเปิด-ปิดด่านหรือไม่ ก่อนจะได้รับยืนยันว่าไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง จึงดำเนินการเปิดด่านตามปกติ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดด่านฝั่งไทยแล้ว ชาวกัมพูชากลับไม่สามารถข้ามแดนได้ เนื่องจากด่านฝั่งประเทศกัมพูชายังคงปิดประตู และไม่มีการอนุญาตให้บุคคลผ่านเข้าออก โดยอ้างว่าต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา

นายสะรีรอด ชาวกัมพูชาจากจังหวัดเสียมเรียบ เปิดเผยว่า ตนพาพี่สาวมารักษาตัวที่โรงพยาบาลฝั่งไทยได้ 3-4 วัน และตั้งใจจะเดินทางกลับประเทศในวันนี้ แม้จะทราบว่าด่านฝั่งกัมพูชาปิด แต่ก็ยังมีความหวังว่าจะมีการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสองประเทศเพื่อให้สามารถเดินทางกลับได้ หากไม่สามารถข้ามกลับได้จริง ๆ ก็อาจต้องอยู่ที่ประเทศไทยต่อไปอีกระยะหนึ่ง

นายเปา จูมจันทร์ที ชาวกัมพูชาอีกคน กล่าวว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปหาหมอที่จังหวัดสุรินทร์ และตั้งใจจะเดินทางกลับบ้านวันนี้ เนื่องจากได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชา ว่าจะเปิดด่านในวันจันทร์ จึงเดินทางมารอที่ช่องสะงำ แต่พบว่าด่านฝั่งกัมพูชายังปิดอยู่ จึงไม่สามารถข้ามกลับได้

“ถ้าด่านยังปิดแบบนี้ ประชาชนที่ทำมาค้าขายข้ามแดนจะลำบากมาก เพราะแต่ละคนเคยใช้เส้นทางนี้ในการค้าขาย แลกเปลี่ยนสินค้าเป็นประจำ” นายเปา กล่าว

ขณะเดียวกัน ยังมีรถบรรทุกตู้คอนเทเนอร์ 22 ล้อ สัญชาติกัมพูชาจำนวน 6 คัน จอดรออยู่ที่หน้าด่าน เพื่อรอข้ามกลับประเทศ หลังจากขนส่งพริกสดจากกัมพูชามาส่งที่ จ.อุบลราชธานี และเตรียมเดินทางกลับ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้เข้าพูดคุยเจรจากับเจ้าหน้าที่ด่านฝั่งกัมพูชาเพื่อขอเปิดทางให้ประชาชนกลับบ้าน แต่ทางฝั่งกัมพูชาให้คำตอบว่า ยังไม่สามารถเปิดได้จนกว่าจะได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เท่านั้น

อย่างไรก็ตามกลุ่มชาวกัมพูชาที่อยู่ในฝั่งไทย ได้เดินทางเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่กัมพูชาโดยตรง แต่กลับถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง และถูกสั่งให้เดินทางไปข้ามที่ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์ แทน สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ จากสถานการณ์ล่าสุดยังไม่มีคำสั่งเปิดด่านจากฝั่งกัมพูชา ทำให้ชาวกัมพูชาจำนวนมากยังคงตกค้างอยู่ฝั่งไทย.