เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการจัดตั้ง ครม.แพทองธาร 1/2 ว่า คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ เมื่อถามถึงความชัดเจนกรณีของนายประเสริฐ ที่มีข่าวว่าจะได้รับตำแหน่งใหม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า บอกตามตรงว่ายังไม่ทราบ และยังไม่มีสัญญาณใดๆ ว่าใครจะได้ไปอยู่กระทรวงใด สำหรับตนนั้น หากนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ไปนั่งกระทรวงไหน ตนก็สามารถทำงานได้หมด เพราะเข้าใจว่านายกรัฐมนตรีคงดูจากความเหมาะสม และตนเคารพการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ามีการเปลี่ยนตัวนายประเสริฐ ออกจากตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลฯ จะทำให้การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์สะดุดหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมถึงเรื่องนี้ และรัฐบาลได้ยกระดับความเข้มข้นในการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) หรือตำรวจที่ทำงานร่วมกันในระดับอาเซียน ในส่วนของกระทรวงดิจิทัลฯ นั้น ได้ให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ (ศบอท.) เป็นศูนย์หลักในการปราบปรามแก๊งบัญชีม้าทั้งหมด เพราะถือเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมธุรกรรม

เมื่อถามว่าถ้ามีบุคคลอื่นมารับตำแหน่ง รมว.ดิจิทัลฯ จะสามารถทำงานในเรื่องดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า สามารถดำเนินการต่อเนื่องได้ เพราะการทำงานมีระบบที่ชัดเจนอยู่แล้ว เนื่องจากเรามี ศอบท. ที่มีหัวหน้าศูนย์กำกับดูแลอยู่ จึงมั่นใจว่ารัฐมนตรีคนใหม่สามารถดำเนินการต่อได้เลย

ขณะที่ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงกรณีที่มีการแจ้งเพื่อให้บุคคลที่จะมารับตำแหน่งรัฐมนตรี ยื่นเอกสารให้ตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติ ว่า ยังไม่มีการส่งประวัติมาให้พิจารณา เมื่อถามว่าจะเน้นการตรวจสอบกรณีของคนที่มีคดีที่อยู่ในการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือประเด็นอื่นพิเศษหรือไม่ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า ไม่มี และตนยังรู้รายละเอียดอะไรเลย