เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นายอภิชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี หลังจากถูกแก๊งมิจฉาชีพอ้างตัวเป็น ผกก. หลอกโอนเงินจนเกลี้ยงบัญชี

นายอภิชาติ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดวันที่ 22 มิ.ย .เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะที่ตนกำลังอยู่บ้านพัก ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้มีคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของค่ายมือถือแห่งหนึ่งใน จ.บึงกาฬโทรมาหาตน บอกว่าตนเคยไปซื้อซิม และได้ลงทะเบียนไว้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน จะโอนสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พอคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้บอกให้ตนแอดไลน์ของ สภ.บึงกาฬ โดยบอกให้ตนพิมพ์ผ่านใน ID Line หลังจากนั้นก็ได้มีการวิดีโอคอลมาคุยเป็นระยะๆ โดยสั่งห้ามออกไปไหนและห้ามบอกใครเด็ดขาด และได้ให้ตนเปลี่ยนการวิดีโอคอลผ่านทางโทรศัพท์ ไปวิดีโอคอลผ่านแทปเล็ท

ต่อมาได้มีการส่งรูปของผู้หญิงคนหนึ่งมาให้ดู พร้อมบัญชีเงินฝากธนาคารที่เป็นชื่อตน โดยบอกว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นอดีตผู้จัดการธนาคารและมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า จึงให้ตนถ่ายรูปบัตรประชาชนส่งให้เพื่อทำการตรวจสอบ ที่น่าแปลกใจ คือ รู้ว่าตนมีเงินในบัญชีกี่บาท กี่ธนาคาร และได้บอกให้ตนโอนเงินในบัญชีจำนวน 144,000 บาท เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับการฟอกเงิน ในขณะที่ทำการวิดีโอคอลอยู่นั้นก็มีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาว่า ชื่อของตนยังมีความเกี่ยวข้องคดีอื่น และได้ให้ตนโอนเงินอีกจำนวน 25,000 บาท เพื่อตรวจสอบ และครั้งสุดท้ายได้บอกให้ตนโอนเงินอีก 3,900 บาท เพื่อตรวจสอบ รวมยอดเงินทั้งหมด 172,900 บาท ซึ่งการโอนเงินทั้ง 3 ครั้ง คนที่อ้างว่าเป็น ผกก.สภ.บึงกาฬ บอกว่า การตรวจสอบแบ่งเป็น 3 หน่วยงาน

นายอภิชาติ เล่าอีกว่า ตนใช้เวลาคุยตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 5โมงเย็น นานกว่า 7 ชั่วโมง โดยก่อนจะวางสายไปทางคนที่อ้างว่าเป็น ผกก.สภ.บึงกาฬ จะให้ตนโอนเงินอีก แต่ตนไม่สามารถโอนให้ได้เพราะบัญชีสุดท้ายเป็นบัญชีคู่ ตนไม่สามารถโอนได้ และได้ปฎิเสธและรีบวางสายทันที ตนยอมรับว่าในขณะที่วิดีโอคอลคุยกันมีความวิตกกังวลและหวาดกลัว เพราะทางนั้นเขาแต่งตัวเหมือนตำรวจจริงๆ การพูดคุยก็ดูเหมือนตำรวจจริงๆ แถมยังสั่งห้ามตนไม่ให้ออกไปไหนหรือโทรศัพท์หาใคร โดยเงินดังกล่าวนี้เป็นเงินเก็บของตนรวมกับที่ญาติๆ ให้มา เพื่อที่จะใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายเรื่องของงานบวชของตนอีกด้วย เมื่อคืนที่ผ่านมาค่อนข้างเครียดมากๆ ถึงกับร้องไห้ตอนที่โทรไปบอกแม่ว่าโดนหลอกให้โอนเงินจนหมดบัญชี.