เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.  เมืองอุรุมชี เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยคณะผู้แทนรัฐสภา เดินทางจากกรุงปักกิ่งถึงท่าอากาศยานนานาชาติอุรุมชี เทียนซาน โดยมีนางจู่มู่เย่อถี อู๋ปู้ลี่ ประธานสภาประชาชนแห่งเขตปกครองตนเองซินเจียง ให้การต้อนรับ  ในวันนี้นายวันมูหะมัดนอร์สวมเสื้อมลายูสำหรับผู้ชายชาวมุสลิม ก่อนที่จะเดินทางไปยังสถาบันอิสลามศึกษาของซินเจียง และเยี่ยมชมมัสยิด

โดยมีนายมู่ฮาถีเร่อมู่ ซีรื่อผู อธิการบดีมหาวิทยาลัยศาสนาอิสลามซินเจียงและคณะผู้บริหาร  ร่วมให้การต้อนรับและแนะนำสถานศึกษาว่า สถาบันอิสลามศึกษาของซินเจียงก่อตั้งในปี 2017 เนื่องจากมีนักศึกษาอิสลามเข้าการศึกษามากขึ้นจึงมีการสร้างมหาวิทยาลัย ในพื้นที่ 100,000 ตารางเมตร ใช้งบประมาณก่อสร้าง 279 ล้านหยวน รองรับนักศึกษาได้จำนวน 1,000 คน ปัจจุบันมีนักศึกษากว่า 600 คน

จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ ได้เดินเยี่ยมชมห้องสถานศึกษาและรับฟังข้อมูลประวัติการเรียนการสอน ที่มีหลักสูตรการเรียนการสอน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น การเรียนการสอนวิชาอัลกุรอาน  วิชาหลักศาสนาและกฎหมายของอิสลาม วิชาประวัติศาสตร์ศาสนาภาษาอาหรับ หลักสูตรความรักชาติ โดยระหว่างการเยี่ยมชมได้มีนักศึกษาอ่านอัลกุรอานให้คณะผู้แทนรัฐสภาไทยได้ฟังด้วย

ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ยังมีดำริให้ทุนการศึกษาแก่ “นายอุซมาน” ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกเพื่อให้กลับมาเป็นอาจารย์สอนที่สถาบันการศึกษาแห่งนี้ พร้อมกันนี้ประธานรัฐสภาในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยฟาฏอนี ยังมีดำริที่จะดำเนินโครงการแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยศาสนาอิสลามซินเจียงและมหาวิทยาลัยฟาฏอนี

จากนั้นประธานรัฐสภาได้เข้าเยี่ยมชมมัสยิดภายในสถาบัน ที่สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประกอบพิธีทางศาสนา ได้กว่า 1,200 คน  เช่น พิธีละหมาดที่จัดให้มีการประกอบพิธี 5 ครั้งต่อวันและทุกวันศุกร์จะมีการประกอบพิธีละหมาดยุมอัต เป็นการละหมาดที่ชาวมุสลิมชาย จะต้องปฏิบัติร่วมกัน ณ มัสยิด ในวันศุกร์แทนการละหมาดซุฮริ การละหมาดนี้ประกอบด้วยการฟังคุฏบะฮ์ (การเทศนา) และการละหมาดสองร่อกะอัต โดยมีอิหม่ามเป็นผู้นำ ซึ่งรวมถึงเทศกาลที่สำคัญต่างๆ ของศาสนาอิสลามก็จะใช้มัสยิดแห่งนี้ในการประกอบพิธี

ทั้งนี้การเดินทางเยือนซินเจียงของประธานรัฐสภา ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนจีนและขอสัมภาษณ์ว่ารู้สึกอย่างไรที่ได้มาเห็นซินเจียง โดยประธานรัฐสภา กล่าวว่า เป็นการกลับมาที่ซินเจียงในรอบ 27 ปี รู้สึกดีใจมาก ที่ได้เห็นความเจริญของซินเจียง ผิดกับ 27 ปี ที่แล้วมาก ต้องขอบคุณรัฐบาลจีน โดยท่านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ให้ความสำคัญ ซึ่งรู้สึกประทับใจว่ามหาวิทยาลัยสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนักเรียนที่จบที่นี่ก็จะออกไปเผยแผ่ศาสนาทั่วซินเจียง ซึ่งจากนี้จะมีการแลกเปลี่ยนระหว่างกันมากยิ่งขึ้นโดยการลงนาม MOU ในการแลกเปลี่ยนนักศึกษา และให้ทุนในการเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และระดับปริญญาเอกที่ประเทศไทย ทางด้านศาสนา ภาษาอาหรับ และภาษามลายู ด้วย.