สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ว่า กรอบการทำงานดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้จนถึงสิ้นปี 2573 และเข้ามาแทนที่กฎระเบียบจากปี 2565 ที่จะหมดอายุในปีนี้
นางเทเรซา ริเบรา รองประธานบริหารฝ่ายการเปลี่ยนผ่านที่สะอาด ยุติธรรม และมีการแข่งขัน ของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวว่า หากยุโรปต้องการเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีสะอาด อียูจะต้องดำเนินการด้วยความกล้าหาญและความชัดเจน ซึ่งกรอบการทำงานใหม่นี้ ช่วยลดความซับซ้อน และเร่งการสนับสนุนการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
Smartphones and tablets will soon be:
— European Commission (@EU_Commission) June 23, 2025
???? Easier to repair with spare parts for up to 7 years
???? More durable against drops, water, dust
???? Labelled for energy use, battery life, durability
???? €20 billion by 2030
???? Using 1/3 less energy vs. doing nothing
ตามคำร้องขอของฝรั่งเศส และประเทศอื่น ๆ ที่สนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์ เช่น สวีเดน และโปแลนด์ กฎระเบียบข้างต้นนำเสนอแนวคิด “ความเป็นกลางทางเทคโนโลยี” ซึ่งอนุญาตให้ความช่วยเหลือจากรัฐ เข้าสู่การผลิตพลังงานนิวเคลียร์และพลังงานหมุนเวียน
“เนื่องด้วยการยอมรับอย่างเต็มที่ต่อสิทธิของประเทศสมาชิก ในการกำหนดสัดส่วนพลังงาน อีซีจะดำเนินการประเมินกรณีความช่วยเหลือจากรัฐอย่างทันท่วงที สำหรับการผลิตพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งรวมถึงเตาปฏิกรณ์โมดูลาร์ขนาดเล็กขั้นสูง เพื่อรับประกันความแน่นอนทางกฎหมายของความช่วยเหลือดังกล่าว” อียู ระบุในกฎระเบียบใหม่
นอกจากนี้ กรอบการทำงานยังครอบคลุมถึงความช่วยเหลือสำหรับ “เชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ” เช่น ไฮโดรเจนสีน้ำเงิน และไฮโดรเจนสีเขียว ซึ่งสามารถสนับสนุนบริษัทในภาคส่วนที่ “ยากต่อการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์” หันมาใช้พลังงานสีเขียวได้.
เครดิตภาพ : AFP