จากกรณีโลกทวิตเตอร์แห่ติดแท็ก #รร.สตรีชื่อดัง ก่อนจะแฉพฤติกรรมไม่เหมาะสมของครูหนุ่ม 2 ราย ที่สอนวิชาศิลปะและครูสอนพละศึกษา มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับนักเรียนหญิง โดยผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักเรียนได้รวบรวมหลักฐานที่เป็นแชตข้อความ มาพูดคุยส่วนตัว ตั้งแต่ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา และพูดคุยเชิงชู้สาวออกมาโชว์ในทางทวิตเตอร์ ซึ่งปรากฏข้อความระบุทำนองว่า “แอบชอบนักเรียนหญิง, อยากไปหาถึงบ้าน, อยากพาไปเที่ยว, เรียกว่าคนสวย, พูดถึงอวัยะเพศตนเอง นอกจากนี้ยังมีการโทรศัพท์มาพูดคุยบ่อย ๆ จนถึงขั้นถูกแอบถ่ายใต้กระโปรง และนักเรียนหญิงบางคนเคยถูกถึงเนื้อถึงตัว..” ซึ่งล่าสุดทางผู้บังคับบัญชาได้ส่งครูคนดังกล่าวไปช่วยราชการที่สำนักงาน สพม.แล้วตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 พ.ย. ผอ.โรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนและคณะผู้บริหารทราบเรื่องเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง พบว่า มีการกระทำของครูตามที่มีการร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียลจริง จึงได้มีการรายงานให้ทางผู้บังคับบัญชาคือผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา พังงา ภูเก็ต ระนอง (สพม.พงภกรน.) ทราบ พร้อมขอทราบแนวทางในการดำเนินการเบื้องต้นกับครูทั้ง 2 คน ทั้งนี้เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ทาง สพม.พังงา ภูเก็ต ระนอง ได้มีคำสั่งให้ครูทั้ง 2 คน ไปช่วยราชการที่สำนักงาน สพม. ลงวันที่ 16 พ.ย. 64 และทางโรงเรียนได้มีหนังสือส่งตัวให้ครูทั้ง 2 คน เดินทางไปรายงานตัว และช่วยราชการในวันนี้ (17 พ.ย. 64)
“ครูคนดังกล่าวก่อนหน้านี้ ก็เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ และทางโรงเรียนก็ได้ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดมาแล้วครั้งหนึ่ง และเมื่อผมซึ่งเป็นผู้อำนวยการคนปัจจุบันย้ายมา ก็ได้มีการเรียกมากำชับว่าไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ซึ่งก็หยุดพฤติกรรมดังกล่าวได้ปีกว่า ก็มาเกิดเรื่องขึ้นอีก ซึ่งก็ต้องมีการสอบสวนและลงโทษตามระเบียบต่อไป” ผอ.โรงเรียน กล่าว
ไปหื่นที่อื่น! สั่งเด้ง ‘2 ครูหนุ่ม’คุกคามทางเพศนักเรียน ทักแชตคุยเรื่องใต้สะดือ…
ด้านนายปิยะพงศ์ ชูวงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เบื้องต้นทางโรงเรียนได้ให้ครูที่ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คน ไปช่วยราชการที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา พังงา ภูเก็ต ระนอง ไว้ก่อน ในระหว่างรอการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจากเหตุการณ์ครั้งนี้จะได้มีการทบทวนการสื่อสารภายในสถานศึกษาต่างๆ ระหว่างครูกับนักเรียน ให้มากขึ้น แทนการปล่อยให้เด็กมีการสื่อสารทางโซเชียลเพียงอย่างเดียว
ขณะที่ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนดังกล่าว กล่าวว่า เพิ่งจะทราบข่าวเมื่อคืนจากลูกสาว ที่เรียนอยู่โรงเรียนนี้ รู้สึกกังวลเป็นห่วงเด็ก ที่โดนครูทำแบบนี้และห่วงความรู้สึกเด็ก แล้วก็ห่วงว่ารุ่นต่อๆ ไปเด็กจะไม่ปลอดภัย ไม่อยากให้ย้ายกลับมา อยากให้ย้ายผ่านไปเลย ถ้ากลับมาทำแบบเดิมอีก
