กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ลงพื้นที่จริงและจำลองเหตุการณ์ ณ อิมแพ็ค ฟอรัม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 67 เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปจัดทำเป็นระบบแผนที่อัจฉริยะ GEO-AI คือ การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบภูมิสารสนเทศ (Geospatial Technology) ตามที่มีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
‘ฮั้ว สว.!’ DSI เรียก 7 พยานคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน ลอตแรกให้ข้อมูล 1 ก.ค.นี้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. “ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์” ได้รับรายงานความคืบหน้าในคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน หรือคดีอาญาอั้งยี่-ฟอกเงิน ว่า ภายหลังจากที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกเอกสารเชิญสอบสวนปากคำพยาน 7 ราย เข้าให้การชี้แจงเรื่องเส้นทางการเงินที่ไปเกี่ยวข้องกับขบวนการจัดฮั้ว สว. นั้น เกิดขึ้นจากการดูเส้นทางการเงินและลำดับความสำคัญว่ากลุ่มคนเหล่านี้คือคนที่อยู่รอบข้างกับกระบวนการดำเนินการต่าง ๆ ทั้งยังมีเส้นทางการเงินที่ปรากฏชัดเจน จึงต้องเชิญมาให้ปากคำในฐานะพยาน ว่าเงินที่ปรากฏนั้นเป็นค่าดำเนินการในส่วนใด และเป็นนิติกรรมสำหรับเรื่องใด ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ต้องเปิดโอกาสให้บุคคลได้มีการชี้แจงข้อเท็จจริง
ส่วนจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับนักการเมืองระดับประเทศ นักการเมืองระดับท้องถิ่น คนใกล้ชิดนักการเมืองหรือไม่นั้น ยังไม่ขอด่วนสรุปในภาพรวมดังกล่าว แต่จะไม่ตัดประเด็นทิ้ง เนื่องจากในรายงานการสืบสวนสอบสวนพบว่าทั้งหมดนี้มีพฤติการณ์เป็นทั้งโหวตเตอร์ และหาคนมาลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จึงต้องเป็นการร่วมกันทำ แบ่งหน้าที่กันทำในลักษณะกลุ่มคนขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีรายงานความเคลื่อนไหวในส่วนของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน หรือ 7 อรหันต์ ที่ดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งด้วย ว่า ปัจจุบันมีการออกหนังสือเชิญบุคคลให้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาแล้ว 7 ลอต จำนวน 162 ราย ส่วนลอตที่ 8 มีจำนวนประปรายเท่านั้น ดังนั้น หากนับรวมในตอนนี้จะมีประมาณ 170 รายที่ได้รับหนังสือเชิญเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาตาม พ.ร.ป.สว.61 โดยมีทั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มคนนอก คนใกล้ชิดนักการเมือง เป็นต้น ทั้งนี้ ความคืบหน้าสำคัญในคดี พ.ร.ป.สว.61 หรือคดีฮั้ว สว. จะเกิดขึ้นในกลางเดือน ก.ค.นี้
“เมื่อคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน หรือ 7 อรหันต์ ดำเนินการทางสำนวนคดีฮั้ว สว. เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องส่งให้คณะกรรมการ กกต. ชุดใหญ่ เพื่อพิจารณาไต่สวนรายละเอียดเนื้อหาภายในสำนวน จากนั้นคณะกรรมการ กกต. ชุดใหญ่ จะเป็นผู้ส่งเรื่องต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามขั้นตอน ดังนั้น ความจะเริ่มปรากฏชัดเจนตั้งแต่ขั้นตอนของการวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการ กกต. ชุดใหญ่ ซึ่งคำวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการ กกต. ชุดใหญ่ ก็จะมีผลผูกพันและสอดคล้องไปกับคดีอาญาอั้งยี่-ฟอกเงินที่ดีเอสไอรับผิดชอบสำนวนอยู่ เพราะเป็นพยานหลักฐานที่ใกล้เคียงกัน” รายงานระบุปิดท้าย.