เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เวชปฏิบัติทางประสาทวิทยา ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านสมองและความผิดปกติทางประสาทวิทยา ด้วยปริญญาจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์ เผยถึงผลการวิจัยที่น่าสนใจ โดยระบุว่า “ลูกติดมือถือ โซเชียล หรือเกม อย่าคิดว่าเรื่องเล็ก งานวิจัยใหม่ชี้ชัดว่า อาจเสี่ยงคิดสั้นได้โดยไม่รู้ตัว” โดยงานวิจัยจากวารสาร JAMA (18 มิถุนายน 2025) ศึกษาเด็กอเมริกันกว่า 4,285 คน ติดตามตั้งแต่อายุ 10 ปี นานต่อเนื่อง 4 ปี ไม่ได้ดูแค่ว่าใช้หน้าจอกี่ชั่วโมง แต่ดูว่าการใช้งาน “เข้าข่ายเสพติด” หรือไม่

“สิ่งที่พบคือ เด็กที่ใช้โซเชียลหรือมือถือแบบเสพติด โดยเฉพาะที่เริ่มใช้หนักขึ้นเรื่อย ๆ มีความเสี่ยง “คิดฆ่าตัวตาย” มากกว่าปกติถึง 2 เท่า” เด็กที่ติดเกม มักแสดงอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล ส่วนเด็กที่ติดโซเชียลมาก จะมีแนวโน้มควบคุมอารมณ์ไม่ได้ หงุดหงิดง่าย และมีพฤติกรรมก้าวร้าว ที่สำคัญคือ “จำนวนชั่วโมงที่ใช้หน้าจอ” ไม่ใช่ปัจจัยหลัก แต่ “พฤติกรรมการใช้แบบเสพติด” คือสิ่งที่ควรจับตามองมากที่สุด

ในฐานะพ่อแม่ ครู หรือผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้เด็ก อย่ารอให้ลูกพูดว่าไม่ไหวแล้ว ค่อยเข้าไปดูแล ถ้าเห็นลูกเริ่มแยกตัว อารมณ์แปรปรวน หมกมุ่นกับหน้าจอมากเกินไป ควรเริ่มพูดคุย ถามไถ่ และหาทางรับมืออย่างจริงจัง ถ้าไม่แน่ใจ อย่ากลัวที่จะพาไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ “เทคโนโลยีไม่ผิด แต่ถ้าเราไม่สอนให้เด็กใช้อย่างมีสติ มันอาจกลายเป็นเครื่องมือที่ทำร้ายเขาโดยที่เราคาดไม่ถึง”..

ขอบคุณข้อมูลจาก สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์