เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 1 ก.ค. 2568 นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานเทศกาลผลไม้ประจำปี 2568 “งานน้อยหน่าและของดีปากช่อง” อย่างยิ่งใหญ่ ณ สนามข้างโรงทอกระสอบ ริมถนนมิตรภาพสายเก่า ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เทศกาลนี้จะจัดยาวนานถึง 12 วัน 12 คืน ไปจนถึงวันที่ 12 กรกฎาคม 2568
งานดังกล่าวจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างอำเภอปากช่อง, สำนักงานเกษตรอำเภอปากช่อง, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอปากช่อง, เกษตรกรชาวสวน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีนายไพรัตน์ อินทร์ปัญญา นายอำเภอปากช่อง กล่าวรายงานต่อประธาน พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ อาทิ นายบัณฑิต เกิดมงคล เกษตรอำเภอปากช่อง, นางน้ำเงิน ยศสูงเนิน ประธานวิสาหกิจชุมชนทุเรียนและพืชสวนปากช่อง, นายพรประดิษฐ์ นันขุนทด ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอปากช่อง, นางชินพร ณิรังโส ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอปากช่อง และกลุ่มอาชีพ OTOP รวมถึงนางละอองแก้ว ธรรมจักร ออแกไนซ์จัดงาน กำนันผู้ใหญ่บ้าน และเกษตรกรชาวไร่ชาวสวน ร่วมพิธีเปิดงานอย่างคับคั่ง
ภายในพิธีเปิด นายสุรพันธ์ ได้มอบโล่รางวัลเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดขบวนรถแห่ผลไม้จาก 12 ตำบล และการประกวดน้อยหน่า 3 สายพันธุ์ ทั้งพันธุ์เพชรปากช่อง, พันธุ์หนัง และพันธุ์ฝ้าย นอกจากนี้ยังมีรางวัลสำหรับการจัดกระเช้าผลไม้, การประกวดตำส้มตำลีลา และการประกวดผัดหมี่โคราชกับข้าวโพดหวานปากช่องอีกด้วย
หลังจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้เป็นประธานตักลูกปิงปองนำโชค เพื่อหารายได้สนับสนุนกิ่งกาชาดอำเภอปากช่อง สำหรับเป็นกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้ป่วย ผู้พิการ และผู้ยากไร้ในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นไปในตัว ก่อนจะเดินเยี่ยมชมบูทจำหน่ายน้อยหน่าและผลไม้หลากหลายชนิดที่นำมาจัดจำหน่ายภายในงานในราคาถูก
อำเภอปากช่องขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกผลไม้นานาชนิด โดยเฉพาะน้อยหน่า ซึ่งถือเป็นแหล่งกำเนิดของน้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่องที่มีลูกโต รสหวานเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีน้อยหน่าพันธุ์หนังและฝ้าย ซึ่งมีพื้นที่ปลูกรวมกันมากกว่า 2,000 ไร่ และเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดพอดี การจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นการส่งเสริมและเพิ่มช่องทางรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนโดยตรง โดยภายในงานมีบูทจัดจำหน่ายสินค้ากว่า 500 บูท คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่กว่า 200 ล้านบาทอย่างแน่นอน
