เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย​ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายก​รัฐมนตรี​และรมว.วัฒนธรรม ถูกศาลรัฐธรรมนูญ​สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ว่า​ นายกฯ มีกำลังใจที่เข้มแข็ง และได้กำชับรัฐมนตรี​ทุกคนให้ทำหน้าที่ต่อ​ ในส่วนของนายกฯ เองก็เหมือนพักงานไป​ เพื่อรอกระบวนการยุติธรรมให้มีความชัดเจน แต่ก็ยังสามารถทำอะไรต่างๆ ได้​ ในฐานะประชาชน​คนหนึ่ง​ ที่จะช่วยแก้ไขปัญหา​ และนายกฯ ก็ยังสามารถเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เช่นเดิม ภายหลังการเข้าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 3 ก.ค. ก็จะเป็น รมว.วัฒนธรรม

เมื่อถามถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกต ว่านายกฯ ถูกร้องเรื่องคุณสมบัติและความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ อาจไม่สามารถนั่งในตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ได้ นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า​ นายชูศักดิ์ ศิรินิล​ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงาน​คณะกรรมการกฤษฎีกา​ ได้ดูในเรื่องกฎหมายทั้งหมดแล้ว จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา หากยังคลางแคลงใจหรือมีประเด็น ให้กระบวนการยุติธรรมตรวจสอบได้อยู่แล้ว แต่นายกฯ ก็มีภารกิจของกระทรวงวัฒนธรรม ในส่วนอื่นก็ไม่มีอะไรกระทบที่จะทำให้งานสะดุด หากท่านจะถูกวินิจฉัยว่าอย่างไร ก็ไม่มีปัญหา ขอให้ทุกคนได้ทำงาน และนายกฯ จะทำหน้าที่ในบทบาท ฐานะประชาชนและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามต่อว่าทางพรรคเพื่อไทย ได้เตรียมแผนรองรับ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายกฯ หรือไม่ โดยนายชัยเกษม​ นิติสิริ​ เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไปของพรรคใช่หรือไม่​ นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า มันมีกระบวนการอยู่แล้ว ตั้งแต่หลังจากวันนั้นเกิดขึ้น เชื่อว่าน่าจะดี ไม่ต้องไปคิดอะไรที่เยอะกว่านี้ และเราเชื่อมั่นว่าผลที่จะออกมาจะเป็นบวก

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการใช้นิติสงครามนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเพียงคำเปรียบเปรย ซึ่งตนมองว่ากระบวนการยุติธรรมเป็นกลไกหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งก็ต้องดำเนินการไป ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหารหรือนิติบัญญัติ หรือแม้แต่ฝ่ายตุลาการ ทุกคนมีสิทธิ​ ในการให้ข้อเสนอแนะ หากมีการตั้งคำถาม ทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องชี้แจงข้อสงสัย เพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจนขึ้น ในเมื่อมีคำถามถึงตุลาการ ก็ต้องมีหน้าที่ในการรับฟังและตรวจสอบ อีกทั้งตนเชื่อมั่นในกฎหมายว่ามีความปรารถนาดีต่อประเทศชาติ และกลไกของประชาธิปไตย ให้เสนอแนะตรวจสอบได้ กลไกทุกอำนาจก็ต้องรับฟังมองว่าไม่ใช่ปัญหา

เมื่อถามอีกว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าคดีของพรรคภูมิใจไทย หากเปรียบเทียบกับคดีของคนเพื่อไทย รูปคดีที่ออกมาดูเบากว่า นายภูมิธรรม กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง ในตัวบทกฎหมาย มีองค์กรที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ศาลก็ชี้แจงชัดเจนแล้ว ว่าในเมื่อมีกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้ว ก็ไม่รับ ก็ให้กระบวนการนั้นทำหน้าที่ไป และอีกครั้งกระบวนการนั้นก็ยังทำหน้าที่อยู่ เช่นเดียวกับ กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ทำหน้าที่ไป.