สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ว่า กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ เตรียมใช้มาตรการภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด กับบรั่นดีซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากสหภาพยุโรป (อียู) ในอัตราสูงสุด 34.9% โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. นี้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการสอบสวนอย่างละเอียดตั้งแต่ปีที่แล้ว และเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือน หลังอียูเปิดการสอบสวน การที่จีนใช้มาตรการอุดหนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และตั้งกำแพงภาษี 35% ตั้งแต่เดือน ต.ค. ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งยืนยันว่า การกำหนดอัตราภาษีดังกล่าวมีความจำเป็น เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมบรั่นดีภายในประเทศ ไม่ให้ได้รับความเสียหายจาก “ภัยคุกคาม” ซึ่งจะมาจากการทุ่มตลาดของอียู โดยจะมีผลบังคับใช้กับบรั่นดีซึ่งบรรจุในภาชนะที่มีขนาดไม่เกิน 200 ลิตร
#China's Ministry of Commerce (#MOFCOM) on Friday issued its final ruling on the anti-dumping investigation into #brandy imports from the EU, concluding that imported brandy from #EU involves dumping, the domestic brandy industry is under substantial threat of damage, and there… pic.twitter.com/a8Y6T29F02
— Global Times (@globaltimesnews) July 4, 2025
ปัจจุบัน จีนเป็นตลาดสำคัญของคอนยัคจากฝรั่งเศส ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1,400 ล้านยูโรต่อปี (ราว 53,363.80 ล้านบาท) และมาตรการภาษีของจีน อาจทำให้อุตสาหกรรมคอนยัคของฝรั่งเศสสูญเสียรายได้ถึงเดือนละ 50 ล้านยูโร (ราว 1,905.85 ล้านบาท)
อนึ่ง จีนและอียูมีกำหนดจัดการประชุมสุดยอดร่วมกันในเดือน ก.ค. เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบรอบ 50 ปี แต่ท่ามกลางบรรยากาศของความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดหลายด้าน มีรายงานว่า จีนมีแผนยกเลิกการประชุมสุดยอด ในวันที่สองของการจัดงาน.
เครดิตภาพ : AFP